Lead คืออะไร? Lead แบบไหนเป็น Potential Customer ของธุรกิจ?

lead คืออะไร
สำหรับคนทำงานเกี่ยวกับการตลาดหรืองานขาย คงจะเคยได้ยินการพูดถึงคำว่า Lead กันมาบ้างแน่นอน แต่เชื่อว่าหลายคนคงจะยังไม่รู้ว่า Lead คืออะไร หรือ Lead ลูกค้าคือใครและมีความสำคัญอย่างไร ทำไมถึงต้องคอยเก็บ Lead? เรียกได้ว่าเป็นคำที่น่าจะมีความสำคัญกับสายงานที่เกี่ยวกับการขายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ใครที่เคยสงสัยเกี่ยวกับเรื่อง Lead และอยากทำความรู้จักกับเรื่องนี้ให้มากขึ้น ลองมาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันได้ในบทความนี้เลย

เลือกอ่านจากสารบัญ

Lead คืออะไร?

Lead คือกลุ่มคนที่มีความเป็นไปได้และมีแนวโน้มว่าจะสนใจสินค้าหรือบริการของธุรกิจเรา แต่ยังไม่ใช่คนที่พร้อมตัดสินใจซื้อในทันที เรียกได้อีกอย่างว่าเป็น ‘ว่าที่ลูกค้า’ ซึ่งส่วนใหญ่คนกลุ่มนี้มักจะมีการแสดงพฤติกรรมว่าสนใจสินค้าหรือบริการอย่างชัดเจน ทั้งการโทรศัพท์ติดต่อ ส่งข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ หรือในทางออนไลน์ก็จะมีการคอมเมนต์ในโพสต์ Inbox รวมถึงการเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกบนเว็บไซต์ด้วย Lead ลูกค้ากลุ่มนี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากที่เราต้องวิเคราะห์ และคอยติดตามพฤติกรรมเพิ่มเติมเพื่อหาเทคนิคและกลยุทธ์มาใช้ให้เหมาะสมสำหรับปิดการขาย

sales lead คืออะไร

ประเภทของ Lead มีอะไรบ้าง?

แม้ว่าความหมายของ Lead คือลูกค้าที่มีความสนใจในผลิตภัณฑ์ก็ตาม แต่ Lead นั้นยังมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทด้วย ซึ่งการแยกประเภทของ Lead ช่วยให้ทีมขายสามารถเลือกใช้วิธีการเข้าหาหรือจัดการที่แตกต่างเพื่อสร้างโอกาสที่จะเปลี่ยนจาก Lead เป็น Customer ได้อย่างเหมาะสม โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ

 

1. Cold Lead

Clod Lead คือกลุ่มคนที่ยังไม่พร้อมจะซื้อสินค้าบริการในตอนนี้ ด้วยเหตุและปัจจัยหลายอย่าง เช่น ยังไม่สนใจสินค้าหรือบริการในเวลานี้แต่อนาคตไม่แน่ หรือการนำเสนอสินค้าของผู้ขายยังไม่น่าสนใจเท่าที่ควร ซึ่ง Cold Lead มีโอกาสน้อยที่จะเป็นลูกค้าของเราในเวลาอันใกล้ แต่การรักษาความสัมพันธ์และติดต่อกลับไปในเวลาที่เหมาะสมอีกครั้งอาจจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ Cold Lead หันมาสนใจสินค้าได้เหมือนกัน

 

2. Warm Lead

สำหรับ Warm Lead คือกลุ่มที่มีโอกาสเป็นลูกค้าได้ แต่ยังต้องการข้อมูลหรือรายละเอียดของสินค้าหรือบริการเพิ่มเติม เพราะเป็นกลุ่มที่มีความสนใจในตัวสินค้า และศึกษาการใช้งานหรือข้อดีมาบ้างแล้ว ซึ่งการโน้มน้าว Warm Lead ให้ซื้อสินค้าหรือบริการนั้นอาจต้องพึ่งพาเทคนิคและกลยุทธ์ของนักขายเพิ่มเติมอีกสักเล็กน้อย เพื่อโอกาสในการปิดการขายให้ได้ด้วย

 

3. Qualified Lead

Qualified Lead นั้นสามารถเรียกได้ว่าเป็น Potential Customer ซึ่งก็คือกลุ่มคนที่มีโอกาสและมีศักยภาพสูงที่จะซื้อสินค้าหรือบริการค่อนข้างแน่นอนแล้ว แต่ยังขาดข้อมูลหรือรายละเอียดเล็กน้อย เช่น ไม่รู้ว่าจะไปซื้อสินค้าด้วยตัวเองได้ที่ไหน หรือลูกค้ากลุ่มที่ส่งข้อมูลของตัวเองเข้าเว็บไซต์แล้ว แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากผู้ขายเพื่อพูดคุยถึงรายละเอียดในการสั่งซื้อสินค้าต่อไป

 

ลักษณะของ Lead แบบไหนที่ถือว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจ

การแบ่งประเภทของ Lead นั้นอาจช่วยเพิ่มโอกาสในการพิจารณานำเสนอสินค้าและผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้นก็จริง แต่ทีมผู้ขายเองก็ต้องมีแนวทางในการพิจารณา หรือลำดับความสำคัญของ Lead แต่ละประเภทได้อย่างเหมาะสมและถูกต้องด้วย เพื่อให้แน่ชัดว่ากลุ่มไหนบ้างที่จะเป็น Sales Lead ได้แน่นอน หรือมีโอกาสที่จะกลายเป็น Potential Customer ในอนาคตได้ ซึ่งวิธีพิจารณา Lead คือ

 

  • ประเมินจากการแสดงความต้องการในซื้อสินค้าหรือบริการอย่างชัดเจน เช่น กลุ่มคนที่มีปัญหาและจำเป็นต้องใช้บริการหรือซื้อสินค้าเพื่อมาแก้ไขปัญหาเหล่านั้นโดยตรง ซึ่ง Lead กลุ่มนี้คือ Potential Customer ที่มีโอกาสปิดการขายได้แน่นอน
  • พิจารณาจากกลุ่มที่มีงบประมาณและมีกำลังซื้อสินค้าหรือบริการที่มีความสนใจอยู่แล้ว คือ Lead ที่มีความเป็นไปได้สูงว่าจะตัดสินใจซื้อในทันทีหากมีข้อมูลและรายละเอียดที่มากเพียงพอ รวมถึงยังมีความเป็นไปได้สูงด้วยว่าจะปิดการขายแบบ Upselling หรือ Cross Selling ได้ ซึ่งการวิเคราะห์จากพฤติกรรมและความสนใจของ Lead กลุ่มนี้จะช่วยให้พิจารณาได้ง่ายยิ่งขึ้น
  • กลุ่มคนที่มีอำนาจตัดสินใจ เช่น เจ้าของธุรกิจหรือผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจในองค์กรได้ โดยเฉพาะในธุรกิจ B2B ยิ่งหาก Lead ลูกค้าในกลุ่มนี้แสดงความสนใจในสินค้าหรือบริการของเรามากเท่าไร ก็มีโอกาสสูงมากที่จะเป็น Potential Customer ได้ในทันที
Potential Customer คือ

วิธีจัดการกับ Potential Customer เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ

ทั้งนี้เมื่อทราบแน่ชัดแล้วว่าใครคือ Sales Lead หรือ Potential Customer นั้นคือ Lead ที่อยู่ในกลุ่มหรือประเภทไหนบ้าง เพื่อช่วยให้โอกาสในการปิดการขายมีมากขึ้น ทีมขายต้องหาวิธีบริหารจัดการกับ Potential Customer อย่างเหมาะสมด้วย เพราะจะยิ่งเพิ่มโอกาสในการทำกำไรให้กับธุรกิจได้ โดยสามารถทำได้ด้วยวิธีต่อไปนี้

1. เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม

แม้ว่าจะมีความสนใจในสินค้าและบริการแล้ว แต่ลูกค้าก็ยังไม่ได้ตัดสินใจในทันที ทำให้การบริหารจัดการเรื่องระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับนำเสนอข้อมูลสินค้า โปรโมชัน หรือรายละเอียดของบริการเป็นเรื่องที่นักขายต้องวางแผนให้ดี เพราะหากเป็นเวลาที่ Lead พร้อมสำหรับการจ่ายก็ยิ่งมีโอกาสปิดการขายได้ไม่ยาก

2. สื่อสารอย่างตรงประเด็น

Sale Lead คือผู้ที่มีข้อมูลของสินค้าหรือบริการอยู่บ้างแล้ว แต่อาจต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย เช่น การเปรียบเทียบข้อมูลในเชิงลึกจากรีวิว วิดีโอสาธิตการใช้งานเบื้องต้น รวมถึงการเสนอโปรโมชันหรือสิทธิพิเศษเพื่อให้ลูกค้ารับรู้ได้ถึงความใส่ใจและเชื่อมั่นในแบรนด์ได้มากยิ่งขึ้น การสื่อสารที่ตรงไปตรงมาและตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าจะช่วยปิดการขายได้แน่นอน

3. ติดตามสถานะอยู่เสมอ

นอกจากเรื่องของเทคนิคและวิธีการขายแล้ว การติดตามสถานะของทีมขายและลูกค้าก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากติดตามได้ว่าสถานะและขั้นตอนการขาย หรือการสื่อสารกับลูกค้าอยู่ในขั้นตอนไหนก็จะช่วยลำดับความสำคัญของ Lead แต่ละรายได้ รวมถึงการติดตามผลหลังการขายด้วยว่าลูกค้ามีพฤติกรรมหรือความสนใจอย่างไร การติดตามสถานะเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้ายังช่วยเพิ่มโอกาสในการซื้อซ้ำหรือแนะนำแบรนด์ของเราให้กับ Lead ที่อาจเข้ามาเป็นลูกค้าในอนาคตได้

Sales Lead ส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างโอกาสเติบโตทางธุรกิจ

การรู้ว่า Sales Lead คือใครอาจเป็นเรื่องสำคัญของการทำธุรกิจอย่างที่ได้กล่าวมาแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการเก็บข้อมูลของ Lead ทั้งหมด เพื่อนำมาวิเคราะห์และแบ่งประเภทของ Lead ได้อย่างเหมาะสมกับการขายให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะการสำรวจพฤติกรรมและความสนใจของ Lead แต่ละประเภทเพื่อหาเวลาปิดการขาย และสร้างโอกาสประสบความสำเร็จระยะยาวในธุรกิจได้  

สำหรับการวิเคราะห์ Lead แต่ละประเภท หรือติดตามสถานะการทำงานของทีมขายและสถานะในการตัดสินใจของลูกค้า วิธีที่สะดวก รวดเร็ว และง่ายที่สุดก็คือ การใช้ระบบ CRM หรือ Customer Relationship Management เข้ามาช่วยบริหารจัดการด้านข้อมูลและติดตามสถานะของลูกค้า เพื่อไม่ให้พลาดในทุก ๆ ขั้นตอนของการขาย เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทีมขายได้มากขึ้นด้วย

บทความที่น่าสนใจจาก SellStory CRM 

อ่านบทความ อัปเดตเทรนด์และเกร็ดความรู้ดี ๆ สำหรับงานขาย

การทำธุรกิจให้เติบโตและประสบความสำเร็จจากการสร้างรายได้เพิ่มจากลูกค้าเดิม
สำหรับคนทำงานเกี่ยวกับการตลาดหรืองานขาย