Sales Pipeline คืออะไรและสำคัญอย่างไรสำหรับงานขาย?

sales pipeline
สำหรับคนที่ทำงานด้านการขาย อาจเคยประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องวางแผนการขาย วิเคราะห์ลูกค้าเพื่อปิดดีลการขายให้ได้ตามเป้า รวมถึงจัดการเรื่องเอกสารต่าง ๆ ที่บางครั้งก็ทำให้งานมีปัญหาจนทำให้รู้สึกว่าไม่สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพส่งผลไปถึงยอดขายที่ตกหล่นไป ใครที่กำลังประสบปัญหานี้เราอยากให้ทุกคนลองทำความรู้จักกับ Sales Pipeline เพราะนี่คือสิ่งที่จะเข้ามาช่วยให้กระบวนการขายเป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมทั้งช่วยสร้างโอกาสในการปิดการขายได้ตรงตามเป้ามากขึ้นด้วย

เลือกอ่านจากสารบัญ

Sales Pipeline คืออะไร?

Sales Pipeline คือระบบที่ออกมาใช้สำหรับวางแผนในงานขายโดยเฉพาะ ช่วยให้ทีมขายสามารถประเมินได้ว่ากระบวนการขายตั้งแต่เริ่มต้นจนปิดดีลควรมีกี่ขั้นตอน เพื่อวางแผนการทำงานได้ง่ายและเห็นภาพรวมได้ชัดขึ้น ซึ่งข้องดีของ Sales Pipeline ยังช่วยให้ทีมขายติดตามได้ว่าลูกค้าแต่ละคนกำลังอยู่ในกระบวนการขายขั้นตอนไหน เพื่อให้บริหารจัดการกับลูกค้ารายนั้น ๆ ได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการระบุได้ว่าลูกค้าที่อยู่ในแต่ละขั้นหรือแต่ละสเตจ มีผู้ขายคนไหนในทีมเป็นผู้รับผิดชอบ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสร้าง Teamwork ในงานขายที่แข็งแกร่งได้

โดยภาพรวมสรุปได้ว่า Sales Pipeline นั้นคือเครื่องมือที่ช่วยให้การทำงานของทีมขายราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ข้อมูลอ้างอิงจากพฤติกรรมของผู้ซื้อทั้งด้านการตัดสินใจ การสื่อสาร และความสนใจที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถคาดการณ์เรื่องยอดขายได้แม่นยำพร้อมสร้างโอกาสทำยอดขายให้เป็นไปตามเป้ามากขึ้นด้วย

sales pipeline คือ

ขั้นตอนการวางแผนของ Sales Pipeline

เพื่อให้มองเห็นถึงการทำงานของ Sales Pipeline กันได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ลองมาดูกันดีกว่าการวางแผนให้กับทีมขายด้วย Sales Pipeline โดยทั่วไปแล้วมีหลักการอย่างไรกันบ้าง

 

1. การสร้างโอกาส

ขั้นตอนแรกคือการสร้างโอกาสในการขาย ด้วยการค้นหากลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจในสินค้าหรือบริการ เพื่อใช้ในการสร้างโอกาสจัดทำโฆษณาตามช่องทางต่าง ๆ รวมถึงการเข้าร่วมงานจัดแสดงสินค้าและบริการเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้สร้างความรู้จักกับแบรนด์ ขณะเดียวกันแบรนด์เองก็ได้ทำความรู้จักกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายด้วยเหมือนกัน

 

2. การติดต่อและสร้างความสนใจ

เมื่อได้ข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าของแบรนด์ได้ในอนาคต กระบวนการขายในขั้นตอนต่อไปคือการสร้างความสนใจเพื่อให้เกิดการติดต่อสื่อสารกับกลุ่มลูกค้า โดยการนำเสนอข้อมูลสินค้าและบริการผ่านการส่งข้อความ อีเมล รวมถึงการสร้างความประทับใจแรกที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้ง่ายขึ้น

 

3. การนำเสนอและสร้างความเชื่อมั่น

สำหรับขั้นตอนนี้จะเกิดขึ้นหลังจากที่ลูกค้าเริ่มแสดงความสนใจในสินค้าและบริการแล้ว ทีมขายจะเริ่มทำการเจรจาเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจถึงรายละเอียดของสินค้าและบริการในเชิงลึก รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าและบริการเพื่อปิดการขาย

 

4. การเจรจาและยื่นข้อเสนอ

กระบวนการขายในขั้นตอนนี้บน Sales Pipeline คือเมื่อลูกค้าแสดงความสนใจอย่างจริงจังแล้ว ทีมขายจะเริ่มพูดคุยกับลูกค้าเพื่อทำข้อตกลงเกี่ยวกับการซื้อสินค้าหรือรับบริการ ทั้งในส่วนของราคา ขอบเขตในการทำงาน การให้บริการ การนำเสนอโปรโมชันและสิทธิพิเศษ รวมทั้งแนวทางปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการหลังการขายให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า

 

5. ปิดการขาย

ขั้นตอนที่มีความสำคัญของ Sales Pipeline เพราะเป็นขั้นตอนที่จะนำไปสู่การสิ้นสุดกระบวนการขายในที่สุด โดยทีมขายต้องดึงทั้งเทคนิคและกลยุทธ์การขายออกมาใช้ให้ได้มากที่สุด เพื่อใช้ปิดการขายลูกค้าในแต่ละรายให้ได้

 

6. การติดตามผลและสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาว

เมื่อปิดการขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อสร้างโอกาสในการใช้บริการหรือซื้อสินค้าซ้ำในอนาคต ทีมขายจะต้องติดตามผลเพื่อรักษาความสัมพันธ์และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า รวมถึงการให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

sales pipeline คือ

ความสำคัญของการใช้ Sales Pipeline

การใช้ Sales Pipeline เป็นสิ่งที่ช่วยให้การทำงานของทีมขายมีระบบและมีขั้นตอนที่ชัดเจนมากขึ้น และยังมีความสำคัญสำหรับงานขายในอีกหลายด้าน ดังนี้

  • ช่วยให้ทีมขายมองเห็นกระบวนการขายที่ชัดเจนรวมถึงการจัดการกับ Lead Qualification ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม
  • ช่วยในการวางแผนและจัดวางกลยุทธ์ด้านการขายได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด
  • ช่วยในการบริหารจัดการ และติดตามสถานะระหว่างทีมขายกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย
  • ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกับลูกค้าในระยะยาว พร้อมทั้งสรา้งโอกาสที่จะถูกซื้อซ้ำหรือการแนะนำให้กับลูกค้ากลุ่มใหม่

วิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ Sales Pipeline

แม้ว่าการวางแผนทำ Sales Pipeline จะเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานของทีมขายได้ แต่เพื่อให้ดึงศักยภาพในการทำงานได้มากที่สุด ต่อไปนี้คือวิธีเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานบน Sales Pipeline

  • ปรับปรุงและอัปเดตกลยุทธ์กระบวนการขายให้ทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แม่นยำ และปรับแต่งขั้นตอนการทำงานให้เหมาะสมกับลูกค้า
  • กำหนดเป้าหมายให้ทุกขั้นตอนเพื่อให้เห็นทิศทางในการทำงานของทีมขายได้มากขึ้น
  • นำกลยุทธ์ต่าง ๆ มาวิเคราะห์เพื่อปรับใช้สำหรับการเจรจา ต่อรอง สร้างความสัมพันธ์ และพัฒนาทักษะให้กับทีมขาย
  • ประเมินผลลัพธ์และวิเคราะห์ข้อมูลอยู่เสมอ ช่วยสร้างความรวดเร็วในการเจรจา ต่อรอง ยื่นข้อเสนอ และปิดการขายได้
  • ใช้เครื่องมือในการจัดการ Sales Pipeline เช่น การใช้ระบบ CRM (Customer Relationship Management) เข้ามาช่วยบริหารจัดการขั้นตอนกระบวนการขายและลำดับความสำคัญของ Lead Qualification ได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำมากขึ้น
ระบบ crm สำหรับ sales pipeline

Sales Pipeline เครื่องมือสำคัญสู่การพิชิตยอดขาย

Sales Pipeline คือ อีกหนึ่งรูปแบบการวางแผนที่ช่วยให้ทีมขายจัดการและติดตามความคืบหน้าของสถานะลูกค้าให้เป็นไปตามกระบวนการขายได้เป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากที่สุด เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนของการทำความรู้จักกับลูกค้า การสร้างโอกาส ไปจนถึงขั้นตอนของการปิดการขาย แต่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพได้มากที่สุดควรทำงานร่วมกับระบบ CRM ที่จะช่วยบริหารจัดการในด้านต่าง ๆ ได้รวดเร็ว และเพิ่มศักยภาพให้ทีมขายสามารถพิชิตยอดขายได้ตามเป้า

สำหรับท่านที่กำลังมองหาระบบที่ช่วยบริหารจัดการเกี่ยวกับการขาย และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกค้า ขอแนะนำ ซอฟต์แวร์ CRM จาก SellStory ที่ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับบริหารจัดการงานด้านการขาย และช่วยให้แผนงานบน Sales Pipeline เป็นไปตามเป้าหมายได้มากที่สุด ด้วยฟีเจอร์ที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน ช่วยลดระยะเวลาการทำงานในขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อให้ทุกงานขายเป็นเรื่องง่าย

บทความที่น่าสนใจจาก SellStory CRM 

อ่านบทความ อัปเดตเทรนด์และเกร็ดความรู้ดี ๆ สำหรับงานขาย

การทำธุรกิจให้เติบโตและประสบความสำเร็จจากการสร้างรายได้เพิ่มจากลูกค้าเดิม
สำหรับคนทำงานเกี่ยวกับการตลาดหรืองานขาย