การปิดการขาย คืออะไร?
การปิดการขาย คือ ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดในกระบวนการขาย ที่ต้องใช้ทักษะการขาย และความสามารถของนักขายในการใช้เทคนิคสื่อสาร เพื่อโน้มน้าวให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้า หรือบริการในที่สุด ซึ่งการปิดการขายที่ดีนั้น ไม่ได้หมายถึงแค่การได้ยอดขาย แต่ยังหมายถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าอีกด้วย
ทำไมต้องมีเทคนิคปิดการขาย?
เมื่อรู้แล้วว่าการปิดการขายเป็นขั้นตอนสำคัญในการขายสินค้า เทคนิคปิดการขาย จึงเป็นวิธีการที่นักขายใช้ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้า/บริการ ในเวลาที่เหมาะสม พร้อมทั้งทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจว่าพวกเขาได้ตัดสินใจอย่างคุ้มค่า จนตัดสินใจซื้อและกลับมาซื้อซ้ำ
หากไม่มีเทคนิคปิดการขาย ต่อให้เรานำเสนอเก่งแค่ไหน ลูกค้าก็อาจไม่ตัดสินใจซื้อทันที ผลลัพธ์คือ เสียเวลา เสียโอกาส และบางครั้งคู่แข่งอาจปิดการขายแทนเราได้เลย
12 เทคนิคปิดการขายที่สำคัญ Sales Team ยุคใหม่ต้องรู้

1. เทคนิคเป็นผู้ฟังที่ดี ฟังให้ลึกถึงใจลูกค้า
หัวใจของการขาย ไม่ใช่การพูดเก่ง แต่คือการฟังให้เป็น ยิ่งไปกว่านั้นคือการฟังให้ลึกถึงปัญหา ความต้องการ และความรู้สึกที่แท้จริงของลูกค้า เพราะถ้าเราไม่เข้าใจพวกเขา ก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร
นอกจากการเป็นนักฟังที่ดีจะทำให้เราได้ Insight ของลูกค้าแล้ว ยังทำให้ลูกค้ารู้สึกได้รับความใส่ใจจากเราอีกด้วย ซึ่งถือเป็นกุญแจดอกแรกที่จะเปิดประตูสู่การขายให้เราได้อย่างง่ายดาย
ตัวอย่างการพูดเสนอขายสินค้า :
- “ก่อนจะแนะนำอะไร ดิฉันอยากทำความเข้าใจก่อนว่า ตอนนี้คุณเจอปัญหาอะไรในการบริหารทีมขายอยู่บ้างคะ?”
- “ถ้าไม่รบกวนเกินไป ช่วยเล่าให้ฟังได้ไหมคะว่าระบบที่ใช้อยู่ยังติดขัดตรงไหน แล้วทำไมถึงคิดจะเปลี่ยน?”
- “จากที่ฟังดูแล้ว สิ่งไหนที่คุณรู้สึกว่าเป็น ปัญหาใหญ่ที่สุด และอยากให้เราช่วยแก้ให้ก่อนเป็นอันดับแรกดีคะ?”
2. เทคนิคมีทางเลือก อย่าบีบแต่จงสร้างโอกาส
ลูกค้ามักจะรู้สึกอึดอัดเมื่อถูกบีบให้เลือกแค่ซื้อหรือไม่ซื้อ ลองเปลี่ยนมุมมองเป็นการเสนอทางเลือกที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาดแทน เพราะเมื่อลูกค้ามีตัวเลือกที่เหมาะสมอยู่ในมือ พวกเขาจะรู้สึกว่าตัวเองมีอำนาจในการตัดสินใจ และมีแนวโน้มที่จะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งมากกว่าปฏิเสธทั้งหมด
ตัวอย่างการพูดเสนอขายสินค้า :
- “คุณสนใจจะเริ่มจากแพ็กเกจทดลองสำหรับทีมเล็กก่อน หรือเลือกแพ็กเกจเต็มที่รองรับการขยายทีมในอนาคตเลยดีคะ?”
- “สินค้าของเรามีหลายรุ่น แต่จากความต้องการของคุณ คุณสนใจรุ่น Standard ที่ใช้งานได้ทันที หรือสนใจรุ่น Premium ที่เพิ่มฟังก์ชันการวิเคราะห์ลูกค้าแบบเชิงลึกคะ?”
3. เทคนิคสร้างความเร่งด่วน โอกาสที่ห้ามพลาด (Urgency Closing)
มนุษย์เรากลัวการพลาดโอกาสมากกว่ากลัวการตัดสินใจผิดพลาด การสร้างกรอบเวลาที่ชัดเจน เช่น โปรโมชันจำกัดเวลา หรือสินค้าที่มีจำนวนจำกัด จะกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจเร็วขึ้น เพราะกลัวว่าจะไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการอีกนั่นเอง
ตัวอย่างการพูดเสนอขายสินค้า :
- “โปรโมชันสุดพิเศษนี้สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อภายในสิ้นเดือนนี้เท่านั้นนะคะ เพื่อให้คุณได้สิทธิ์ในการซื้อสินค้าราคาพิเศษก่อนหมดเขตค่ะ”
- “สินค้าล็อตนี้เหลือเพียง 3 ชิ้นสุดท้ายแล้วค่ะ ถ้าคุณสนใจคงต้องรีบตัดสินใจหน่อยนะคะ”
4. เทคนิคตั้งคำถามปลายปิด พาไปสู่การซื้ออย่างเป็นธรรมชาติ (Assumptive Closing)
เปลี่ยนจากคำถามที่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธ มาเป็นคำถามที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้ตัดสินใจซื้อไปแล้วแทน เทคนิคการขายแบบนี้จะช่วยลดแรงต้านและพาบทสนทนาไปสู่การปิดดีลได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ตัวอย่างการพูดเสนอขายสินค้า :
- “ถ้าอย่างนั้นคุณสะดวกให้เราจัดส่งให้ภายในพรุ่งนี้เลยไหมคะ?”
- “หากพร้อมแล้ว อยากให้เราเริ่มติดตั้งระบบให้สัปดาห์นี้เลยดีไหมคะ?”

5. เทคนิค Social Proof คนอื่นก็เลือกแบบนี้
คนเรามักจะเชื่อในสิ่งที่คนอื่นเลือกแล้ว โดยเฉพาะถ้าเป็นคนที่มีสถานการณ์คล้ายคลึงกัน การยกตัวอย่างเคสจริงหรือรีวิวจากลูกค้าเก่า จะช่วยสร้างความมั่นใจและทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าตัวเลือกนี้ปลอดภัย
ตัวอย่างการพูดเสนอขายสินค้า :
- “อยากให้คุณมั่นใจค่ะว่าไม่ใช่แค่คุณที่ตัดสินใจถูก บริษัท A และ B ในอุตสาหกรรมเดียวกับคุณเลือกใช้ระบบนี้แล้ว ช่วยลดงานเอกสารให้พวกเขาลงกว่า 40% เลยค่ะ”
- “ลูกค้าหลายรายที่มีทีมขายขนาดเล็กเหมือนกับคุณ ใช้ระบบนี้แล้วสามารถปิดดีลได้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ”
6. เทคนิคการใช้บุคคลที่สาม ใช้เสียงคนอื่นให้เป็นประโยชน์
บางครั้งการให้บุคคลที่สามมาช่วยพูดแทนจะมีน้ำหนักมากกว่า การอ้างอิงถึงลูกค้าที่ใช้จริง หรือผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและลดความลังเลของลูกค้าได้มากขึ้น
ตัวอย่างการพูดเสนอขายสินค้า :
- “บริษัทขนส่งที่คล้ายกับคุณ เลือกใช้ระบบนี้แล้วบอกว่า ‘ตั้งแต่ใช้มา ทีมขายทำงานเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก’ ด้วยค่ะ”
- “ลูกค้าหลายรายในธุรกิจเดียวกับคุณ ให้ Feedback ดีมากเกี่ยวกับฟีเจอร์นี้ โดยเฉพาะเรื่องการจัดการเอกสารค่ะ”
7. เทคนิคทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็น Smart Buyer ตัดสินใจอย่างชาญฉลาด
ทุกคนอยากรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนตัดสินใจได้ดี หากเราช่วยเสริมความมั่นใจว่าสิ่งที่ลูกค้าเลือกคือ สิ่งที่ฉลาดและคุ้มค่า จะกระตุ้นให้เกิดการปิดการขายได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างการพูดเสนอขายสินค้า :
- “ลูกค้าที่วางแผนระยะยาวมาเป็นอย่างดีมักจะเลือกแพ็กเกจนี้ เพราะได้ความคุ้มค่าในระยะยาวมากกว่าค่ะ”
- “การเลือกแพ็กเกจนี้ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากค่ะ เพราะจะช่วยให้คุณประหยัดต้นทุนในอนาคตได้มากกว่า”
8. เทคนิคการลดทางเลือก สู้กับความลังเลด้วยตัวเลือกที่ใช่
เมื่อมีตัวเลือกเยอะเกินไป ลูกค้ามักจะสับสนและชะลอการตัดสินใจ การคัดสรรเพียง 2-3 ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด จะช่วยให้ลูกค้าโฟกัสและตัดสินใจง่ายขึ้น
ตัวอย่างการพูดเสนอขายสินค้า :
- “จริง ๆ ระบบของเรามีหลายแพ็กเกจเลยนะคะ แต่จากธุรกิจของคุณ เราแนะนำเพียง 2 แบบนี้เท่านั้นที่จะตอบโจทย์ที่สุดค่ะ”
- “จากความต้องการที่คุณแจ้งมา น่าจะเหมาะกับรุ่น A หรือ B มากกว่าค่ะ ที่เหลืออาจเกินความจำเป็น”

9. เทคนิคใช้ตัวเลข พูดให้เห็นภาพด้วยข้อมูล (Data-driven Closing)
ข้อมูลและตัวเลขทำให้น่าเชื่อถือมากกว่าแค่คำพูดลอย ๆ ถือเป็นสิ่งที่ทรงพลังที่สุดในการขายเลยก็ว่าได้ เพราะการใช้สถิติหรือผลลัพธ์จริงจะช่วยทำให้ลูกค้าตัดสินใจโดยอิงจากข้อเท็จจริงได้
ตัวอย่างการพูดเสนอขายสินค้า :
- “จากข้อมูลที่เราเก็บมา ลูกค้าที่ใช้ระบบนี้มียอดขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 25% ภายใน 6 เดือนค่ะ”
- “เมื่อเราติดตั้งระบบ CRM ให้ทีมขายของคุณจะใช้เวลาในการทำใบเสนอราคา รวดเร็วขึ้นถึง 60% เลยค่ะ”
เพิ่มประสิทธิภาพให้ของคุณวันนี้! ด้วยระบบ CRM จาก SellStory ตรวจสอบแพ็กเกจที่นี่
10. เทคนิคเล่าเรื่อง ให้ลูกค้าอยากเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว (Storytelling Closing)
การเล่าเรื่องราวของลูกค้าที่ประสบความสำเร็จจะช่วยให้ลูกค้าเห็นภาพว่า พวกเขาเองก็สามารถทำแบบนั้นได้ ทำให้พวกเขารู้สึกเชื่อมโยงและตัดสินใจง่ายขึ้น
ตัวอย่างการพูดเสนอขายสินค้า :
- “มีลูกค้าอยู่รายหนึ่งที่เคยเจอปัญหาแบบเดียวกับคุณเลยค่ะ แต่พอเขาตัดสินใจใช้ระบบนี้ เขาสามารถประหยัดเวลาการทำงานได้ถึงครึ่งหนึ่ง และทีมก็ทำงานได้คล่องตัวขึ้นกว่าเดิม”
- “เมื่อปีที่แล้วมีธุรกิจ SME คล้ายกับคุณ ที่ตัดสินใจลงทุนกับระบบของเรา ตอนนี้พวกเขาสามารถปิดการขายเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเลยค่ะ”
11. เทคนิคการเสนอทดลองใช้ ลดความเสี่ยง สร้างความมั่นใจ (Trial Closing)
ความกังวลใหญ่ของลูกค้าคือ ถ้าซื้อแล้วไม่เวิร์กจะทำยังไง? ดังนั้น การให้ทดลองใช้จะช่วยลดความกังวลนี้ได้ดีที่สุด และสร้างความมั่นใจในการตัดสินใจของพวกเขาได้
ตัวอย่างการพูดเสนอขายสินค้า :
- “สนใจลองใช้ระบบของเราฟรี 14 วันก่อนไหมคะ? ถ้าเวิร์กและตอบโจทย์ค่อยอัปเกรดเป็นแพ็กเกจเต็มได้ทันทีเลยค่ะ”
- “คุณสามารถลองใช้ระบบฟรีได้เลยค่ะ หากตอบโจทย์ความต้องการค่อยต่อสัญญาก็ได้นะคะ”
12. เทคนิค Follow-up ตามติดแต่ไม่รบกวน
การขายส่วนใหญ่ไม่ได้จบลงในครั้งแรก แต่เกิดจากการ Follow-up อย่างสม่ำเสมอและถูกจังหวะ การติดตามอย่างมีมารยาทและไม่กดดัน จะช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายโดยไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกรำคาญ
ตัวอย่างการพูดเสนอขายสินค้า :
- “ขออนุญาตติดตามเรื่องใบเสนอราคาที่ส่งไปให้เมื่อวันก่อนค่ะ ไม่ทราบว่ามีคำถามเพิ่มเติมหรือมีอะไรให้อธิบายเพิ่มไหมคะ?”
- “สัปดาห์ที่แล้วคุณสนใจฟีเจอร์แชทของเรา อยากให้ส่งรายละเอียดเพิ่มเติมไปให้อีกครั้งไหมคะ?”
สรุป เทคนิคการขายด้วยระบบ CRM & Sales Management จาก SellStory
การปิดการขายที่ดีไม่ใช่เรื่องของโชค แต่เป็นผลลัพธ์จากการมีทั้งเทคนิคการขายที่เหมาะสมและ เครื่องมือการขายที่เป็นระบบ เมื่อคุณใช้เทคนิคปิดการขายที่หลากหลายและเสริมพลังด้วย ระบบ CRM & Sales Management จาก SellStoryที่ช่วยเก็บข้อมูลลูกค้า การจัดการงานขาย พร้อมออกใบเสนอราคา และสรุปรายงานในที่เดียว ช่วยให้คุณจะปิดดีลได้มากขึ้น เร็วขึ้น และมั่นใจได้ว่าทุกโอกาสการขายจะไม่หลุดมือ
สมัครทดลองใช้งานฟรี ได้เลยวันนี้ หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร 095-371-7988 และแอดไลน์ @sellstory
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเทคนิคปิดการขาย
1. นักขายมือใหม่ควรเริ่มจากเทคนิคไหนก่อน?
เริ่มจาก 3 เทคนิคพื้นฐานที่ใช้ได้เสมอ คือ การเป็นผู้ฟังที่ดี การเสนอทางเลือก และ การ follow-up เมื่อคล่องแล้วค่อยเพิ่มเทคนิคอื่น ๆ เข้ามา
2. พูดไม่เก่งใช้จะเทคนิคปิดการขายได้ไหม?
พูดไม่เก่งไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในการขาย ขอแค่คุณรู้เทคนิคปิดการขายที่เหมาะกับสไตล์ตัวเอง เช่น ใช้ข้อมูลและตัวเลขช่วยเล่าแทนคำพูด ใช้ Social Proof และรีวิวลูกค้าเก่า ร่วมกับการใช้เอกสารหรือสื่อช่วยนำเสนอ ก็สามารถปิดดีลได้เหมือนนักขายมืออาชีพ
3. การใช้เทคนิคปิดการขายเพียงอย่างเดียวเพียงพอต่อการขายสินค้าไหม?
การใช้เทคนิคปิดการขายถือว่าช่วยได้มาก แต่ถ้าอยากให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ควรใช้ร่วมกับ ระบบ CRM & Sales Management เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้า ออกใบเสนอราคา ติดตามดีล และวิเคราะห์โอกาสขายได้อย่างเป็นระบบ