
ใบเสร็จรับเงิน (Receipt) คืออะไร?
ใบเสร็จรับเงินเป็นเอกสารที่ผู้ขายออกให้แก่ลูกค้า เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันการรับเงินค่าสินค้าหรือบริการ และสามารถออกได้กับทุกประเภทธุรกิจ รวมถึงกลุ่มธุรกิจที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นภาษี โดยใบเสร็จรับเงินที่สามารถใช้ได้มีทั้งรูปแบบของ บิลเงินสด และใบเสร็จรับเงินทั่วไป ซึ่งผู้ขายจำเป็นต้องออกใบเสร็จรับเงินเมื่อมีการซื้อสินค้า หรือบริการที่มีจำนวนเงินเกิน 100 บาทขึ้นไป
ข้อมูลที่ต้องมีบนใบเสร็จรับเงิน
การออกใบเสร็จรับเงินที่สมบูรณ์ต้องประกอบไปด้วยข้อมูลสำคัญต่อไปนี้
- ชื่อ-ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้รับเงิน
- หมายเลขใบเสร็จรับเงิน
- วันที่ออกใบเสร็จรับเงิน
- รายการสินค้าและบริการที่ได้รับชำระเงิน
- จำนวนเงินของสินค้าหรือบริการ
ใบกำกับภาษี (Tax Invoice) คืออะไร?
ใบกำกับภาษี เอกสารที่ใช้เป็นหลักฐานในการซื้อขายตามข้อกำหนดทางกฎหมาย โดยผู้ออกต้องเป็นกิจการที่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เท่านั้น ใบกำกับภาษีจึงเป็นเอกสารที่ใช้คำนวณภาษีซื้อและขายในการดำเนินธุรกิจ โดยสิ่งที่ใบกำกับภาษีต่างจากใบเสร็จคือ ต้องออกให้กับผู้ซื้อทันทีที่มีการส่งมอบสินค้า แม้ว่าจะยังไม่ได้รับชำระเงินหรือมียอดไม่ถึง 100 บาทก็ตาม
ข้อมูลที่ต้องมีบนใบกำกับภาษี
การออกใบกำกับภาษีที่สมบูรณ์และใช้งานได้ ต้องประกอบไปด้วยข้อมูลต่อไปนี้
- มีคำว่า “ใบกำกับภาษี” ระบุไว้อย่างชัดเจน
- ชื่อ-ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ขาย
- ชื่อ-ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ซื้อ (ในกรณีเป็นใบกำกับภาษีเต็มรูป)
- รายการสินค้าและบริการที่ขาย พร้อมจำนวนเงิน
- แยกมูลค่าสินค้ากับ VAT 7% ให้ชัดเจน
- เลขที่ใบกำกับภาษีและวันที่ออกเอกสาร
ทั้งนี้สำหรับธุรกิจที่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม การออกเอกสารทั้งใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษี สามารถออกเป็นใบเดียวกันได้ แต่ต้องมีข้อมูลสำคัญที่จำเป็นของทั้งใบเสร็จและใบกำกับภาษีที่ครบถ้วน และควรแบ่งเป็นชุด มีต้นฉบับและสำเนาทุกครั้ง
ตัวอย่างใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงิน

ความแตกต่างระหว่างใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษี
แม้ว่าจะเป็นเอกสารที่มักออกคู่กันในการดำเนินธุรกิจ แต่ทั้งใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีก็มีข้อแตกต่างกันหลายด้าน ดังนี้
ใบเสร็จรับเงิน | ใบกำกับภาษี |
ออกเอกสารเมื่อขายสินค้าหรือบริการ 100 บาทขึ้นไป | ต้องออกเอกสารทุกครั้งที่มีการ ซื้อ-ขาย |
สามารถออกได้ โดยไม่จำเป็นต้องจด VAT | ต้องจด VAT เท่านั้น ถึงออกได้ |
ออกเอกสารหลังจากได้รับเงินค่าสินค้าหรือบริการแล้ว | ออกเอกสารทันทีที่ส่งมอบสินค้า (แม้ยังไม่ได้รับเงิน) |
วิธีออกใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีให้ถูกต้อง
เอกสารทั้งสองประเภทนี้เป็นเอกสารที่มีความสำคัญในการทำธุรกิจ ดังนั้นการออกใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีต้องครบถ้วนและถูกต้อง โดยมีข้อควรรู้ดังนี้
- ใช้แบบฟอร์มที่ได้มาตรฐาน : ควรใช้แบบฟอร์มใบเสร็จรับเงิน และแบบฟอร์มใบกำกับภาษีที่มีรายละเอียดครบถ้วนตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
- ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล : ก่อนออกเอกสาร ควรตรวจสอบเลขที่เอกสาร ชื่อผู้ซื้อ และข้อมูลอื่น ๆ ให้ครบถ้วน
- ใช้ระบบที่รองรับการออกเอกสาร : ธุรกิจสามารถใช้ระบบช่วยจัดการงานขาย เช่น CRM & Sales Management ที่ช่วยออกเอกสารเหล่านี้อัตโนมัติ ด้วยเทมเพลตที่ได้มาตรฐานช่วยลดความผิดพลาดและเพิ่มความสะดวกมากขึ้น
- เก็บสำเนาเอกสารทุกครั้ง : ควรจัดเก็บสำเนาเอกสารไว้เผื่อกรณีมีการตรวจสอบจากกรมสรรพากร
บทลงโทษกรณีไม่ออกใบเสร็จรับเงินให้ลูกค้า
การออกใบเสร็จรับเงินเป็นข้อบังคับที่ต้องปฏิบัติทันทีหลังจากได้รับเงิน หากผู้ขายไม่มีการออกเอกสารใบเสร็จรับเงินให้ผู้ซื้อจะถือเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับมาตรา 127 ทวิ ตามประมวลรัษฎากร อาจถูกปรับเงินหรือมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ทั้งนี้หากมีการออกใบเสร็จรับเงินเป็นภาษาอังกฤษ ก็ต้องมีการออกเป็นภาษาไทยกำกับด้วย เรียกได้ว่าเป็นเอกสารที่มีความสำคัญที่คนทำธุรกิจห้ามลืม หรือพยายามหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด

จัดการเอกสารสำคัญได้อย่างมืออาชีพ ด้วย SellStory ระบบ CRM & Sales Management
การออกเอกสารทางธุรกิจเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวัง และการตรวจสอบอย่างละเอียด ทำให้ต้องใช้เวลาในการออกใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีค่อนข้างนาน การมีตัวช่วยอย่างระบบ CRM & Sales Management จาก SellStory จะช่วยลดขั้นตอนและความยุ่งยากในการออกเอกสารให้กับคุณได้ ด้วยฟีเจอร์ที่ช่วยบริหารจัดการด้านเอกสาร การออกใบเสนอราคาที่รวดเร็ว แม่นยำ พร้อมระบบจัดเก็บเอกสารที่สามารถค้นหาได้ง่าย และยังมีอีกหลายฟีเจอร์ที่ครอบคลุมในทุกเรื่องงานขาย
ต้องการลดความยุ่งยากในการออกเอกสารธุรกิจ? SellStory จะช่วยให้คุณจัดการใบเสร็จและใบกำกับภาษีได้อย่างมืออาชีพ สมัครใช้งานฟรี! ตอนนี้ หรือโทร. 095-371-7988