วิธีเพิ่มยอดขายทำอย่างไร มีความสำคัญกับการทำธุรกิจอย่างไรบ้าง
วิธีเพิ่มยอดขาย คือ เทคนิควิธีการ ทำอย่างไรให้มียอดการขายที่เติบโตขึ้น และรายได้ให้กับธุรกิจ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการเติบโตของธุรกิจ การดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ จำเป็นจะต้องมีลูกค้าและยอดขายเข้ามา เพื่อหล่อเลี้ยงทุกส่วนที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงาน อีกทั้งยอดขายยังจัดเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความสำเร็จ และประสิทธิภาพการทำงานของทีมงาน ไม่ว่าจะเป็นทีมขาย หรือทีมการตลาดก็ตาม
การผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้น จึงเป็นสิ่งที่ทีมงานภายในบริษัทจำเป็นต้องหารือ และวางแผนร่วมกัน ด้วยการศึกษาพฤติกรรมลูกค้า ทำความเข้าใจความต้องการ มองหาแนวทางใหม่ ๆ ในการพัฒนาสินค้า และวางแผนการสื่อสารให้ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการ เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมกับการทำงานของทุกคนในทีม
อัปเดตการขายด้วย Sales Trends 2026 มีอะไรบ้าง สรุปสิ่งที่น่าสนใจ พร้อมแนวทางเพิ่มยอดขาย
12 วิธีเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจ ช่วยกระตุ้นยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ก่อนจะเริ่มใช้งานวิธีการ หรือทักษะการขายในการเพิ่มยอดขาย ต้องมีการทำความเข้าใจเทคนิคและกลยุทธ์ต่าง ๆ ให้ลึกซึ้งก่อน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ดังนี้
1. ทำความรู้จักกลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียด
หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ คือ การทำความเข้าใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของตนเองอย่างลึกซึ้ง เพื่อวางแผนสื่อสารสินค้าที่เหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด ซึ่งวิธีการทำความรู้จักกลุ่มเป้าหมาย สามารถทำได้โดย การวิเคราะห์ Customer Persona สมมุติบุคลิกของลูกค้าในอุดมคติ เพื่อทำความเข้าพฤติกรรม ความชอบ ความต้องการ
เมื่อเข้าใจปัญหา ความต้องการ และพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียดแล้ว ทีมงานจึงสามารถพัฒนาสินค้า บริการ และวิธีการนำเสนอ ที่มีความเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ดียิ่งขึ้น ถือเป็นหนึ่งในวิธีเพิ่มยอดขายขั้นพื้นฐานของการทำการตลาด
2. การใช้เทคนิคติดตามลูกค้าอย่างเป็นระบบ
ปัญหาที่พบเจอบ่อยสำหรับทีมขาย คือ การลืมติดตามลูกค้า ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้พลาดโอกาสการปิดการขายไปอย่างน่าเสียดาย การเลือกใช้ระบบติดตามลูกค้า ที่มีการระบุระยะเวลาในแต่ละขั้นตอนอย่างชัดเจน พร้อมการตั้งแจ้งเตือนและบันทึกผลการติดตาม จะช่วยลดปัญหาการลืมติดตามลูกค้า อีกทั้งการติดตามลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ยังเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสปิดการขายได้มากถึง 40%
3. การจัดทำแนวทางในการตอบและพูดคุยกับลูกค้า
ความประทับใจที่ลูกค้ามีต่อเรา เป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจกลับมาซื้อซ้ำ ดังนั้นการมี Sale Script ที่ออกแบบมารองรับทุกการพูดคุยกับลูกค้า รวมถึงการเตรียมพร้อมตอบคำถามลูกค้าอย่างรวดเร็ว ผ่านแพลตฟอร์ม SellStory ที่มีฟังก์ชันเหล่านี้รองรับ จะช่วยเสริมความประทับใจในการพูดคุย ทั้งในแง่ของความเร็ว และความครบถ้วนของคำตอบ
4. ทำการตลาดแบบ Omnichannel
ปัจจุบันแพลตฟอร์ม E-Commerce มีบทบาทอย่างมากในการซื้อ-ขาย ในหนึ่งธุรกิจมักมีการจำหน่ายสินค้าผ่านหลากหลายช่องทาง เพื่อเพิ่มโอกาสในการมองเห็น และความสะดวกสบายในการสั่งซื้อของลูกค้า สิ่งสำคัญที่ธุรกิจควรทำ คือ การเลือกใช้ระบบ CRM จาก SellStory ที่สามารถรวมข้อมูลจากทุกช่องทางไว้ในที่เดียว เพื่อความง่ายในการติดต่อกับลูกค้า
5. การทำคอนเทนต์สำหรับช่วยขาย
การทำคอนเทนต์เป็นวิธีเพิ่มยอดขายที่นิยมใช้มากที่สุด เพราะวัตถุประสงค์หลักของการทำคอนเทนต์ คือ การสื่อสารรายละเอียดเพื่อสร้างการรับรู้ และทำให้ลูกค้าเข้าใจ/รู้สึกสนใจสินค้าของเรา โดยประเภทของคอนเทนต์ที่นิยม เช่น คอนเทนต์รีวิว คอนเทนต์ให้ความรู้ คอนเทนต์ขาย คอนเทนต์ How-to เป็นต้น
ในหัวข้อนี้ทีมขายสามารถนำไปประยุกต์ทำกลยุทธ์การขาย ด้วยการทำแผนนำเสนอคอนเทนต์แต่ละประเภท ให้เหมาะสมกับธุรกิจและเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดย SellStory สามารถจัดเก็บไฟล์ที่ใช้สำหรับเสนอขายเอาไว้ เพื่อนำไปใช้ต่อในการขายครั้งต่อ ๆ ไป
6. เลือกใช้ใบเสนอราคาอย่างมืออาชีพ
ใบเสนอราคาที่มีรายละเอียดครบถ้วน และดูเป็นระเบียบเรียบร้อย จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ ระบบ CRM จาก SellStory มีเทมเพลตการสร้างใบเสนอราคา และติดตามสถานะใบเสนอราคา ที่ทีมขายสามารถใช้งานได้เองอย่างมืออาชีพ
อ่านบทความที่น่าสนใจ เกี่ยวกับ ตัวอย่างใบเสนอราคา พร้อมองค์ประกอบและวิธีเขียนที่ถูกต้อง
7. อัปเดตราคาและโปรโมชั่นให้ทันสมัย
วิธีเพิ่มยอดขายด้วยการเพิ่มความน่าสนใจให้ลูกค้า โดยการจัดทำราคาและโปรโมชั่นตามเทศกาล เพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อ เช่น Black Friday, โปรโมชั่นปีใหม่ และราคาพิเศษในวันเกิด โดยสามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกจากระบบ CRM เพื่อจัดทำโปรโมชันที่ตรงกับความต้องการ และความสนใจของลูกค้า
8. บริหาร Pipeline งานขายอย่างเป็นระบบ
ระบบ Sale Pipeline Dashboard จาก SellStoryช่วยทำให้เห็นภาพรวม และสถานะการขายของทีมขายแบบเรียลไทม์ ทำให้ทีมงานหลังบ้านสามารถเตรียมแผนการทำงานต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถจัดลำดับความสำคัญของแต่ละงานได้ง่ายยิ่งขึ้น
9. การใช้ระบบ CRM บริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า
การใช้ระบบ CRM ในการติดตามประวัติการซื้อ และจัดกลุ่มลูกค้า เพื่อส่งข้อความเสนอโปรโมชันที่แตกต่างกันตามพฤติกรรม จะช่วยเพิ่มโอกาสการซื้อซ้ำของลูกค้าได้มากขึ้น ถือเป็นวิธีขายของให้น่าสนใจ และรักษา Customer Loyalty ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
10. การวิเคราะห์ข้อมูลยอดขาย เพื่อปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม
การวิเคราะห์ยอดขายเป็นสิ่งที่หลายคนอาจมองข้าม แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยอดขายสามารถแสดงให้ธุรกิจเห็นถึงความชอบของลูกค้า กลุ่มลูกค้าที่เข้ามา ระยะเวลาการซื้อ และประเภทของสินค้าหรือบริการที่ได้รับความนิยมในแต่ละช่วง
SellStory มี Sale Dashboard สำหรับแสดง Performance การทำงานของทีมขาย ว่าแต่ละโปรเจคใช้ระยะเวลาเท่าไรในการนำเสนอ ไปจนถึงการปิดยอดขาย โดยทีมสามารถนำข้อมูลทั้งหมดใน Report มาวิเคราะห์เพื่อปรับกลยุทธ์การขายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
11. พัฒนาทักษะทีมขายอย่างสม่ำเสมอ
การลงทุนกับทักษะของทีมขายเพื่อให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของกระแสต่าง ๆ เช่น Training การพูดคุยกับลูกค้า แนะนำวิธีปิดการขาย แนวทางการนำเสนอสินค้าให้น่าสนใจ หรือเทคนิคการขายที่เคยทำแล้วได้ผลดี โดยให้ทุกคนในทีมจะร่วมกันพูดคุยแบ่งปันแนวทางที่น่าสนใจ โดยสามารถนำเครื่องมือที่ช่วยลดภาระงานเอกสารอย่าง SellStory มาใช้ เพื่อให้ทีมมีเวลาโฟกัสกับการพัฒนาทักษะมากขึ้น
อ่านบทความเพิ่มเติม: 12 ทักษะการขายสำหรับ Sales Team ยุคใหม่ให้ปิดการขายได้อย่างมือโปร
12. มอบบริการหลังการขายที่น่าประทับใจ
วิธีเพิ่มยอดขายด้วยความใส่ใจ ผ่านการมอบบริการหลังการขายที่น่าประทับใจ สามารถทำได้ด้วยการสอบถามความพึงพอใจในการใช้งาน การติดตามการทำงานอย่างสม่ำเสมอ การให้คำแนะนำในการใช้งาน และส่งข้อมูลสินค้าใหม่ไปให้ เพื่อสร้างโอกาสในการเกิดยอดขาย โดยในส่วนนี้ ระบบ CRM จะบันทึกข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมด เพื่อให้การบริการหลังการขายเป็นไปอย่างราบรื่น
ระบบ SellStory ระบบ CRM & Sales Management มีวิธีช่วยเพิ่มยอดขายอย่างไรได้บ้าง
เพื่อระบบออกใบเสนอราคา ที่สามารถติดตามสถานะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอเสนอระบบ CRM & Sales Management จาก SellStory เครื่องมือสำหรับงานขายที่มีฟีเจอร์เด่นหลากหลาย เช่น
- เทมเพลตตัวอย่างใบเสนอราคา ที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละธุรกิจ
- ระบบจัดเก็บใบเสนอราคาแบบออนไลน์
- ตั้งสถานะและระบบเตือนอัตโนมัติ
- ดูประวัติการติดตามลูกค้าแบบเรียลไทม์
- ระบบรวมแชทจากหลายช่องทาง ช่วยให้ติดต่อลูกค้าได้รวดเร็ว
- ระบบเก็บข้อมูลลูกค้า คอยติดตามสถานะได้แบบไม่ผิดพลาด
- แสดงรายงานยอดขายและใบเสนอราคาผ่าน Sales Dashboard เพื่อนำไปวิเคราะห์และปรับกลยุทธ์ได้ง่าย
นอกจากนี้ SellStory ยังสามารถใช้งานได้ทั้งใน Desktop, Web Browser และ Mobile Application พร้อมให้ผู้จัดการฝ่ายขายและผู้ประกอบการ สามารถบริหารงานขายได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่พลาดทุกโอกาสปิดการขาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แพ็กเกจและราคา
สรุปการเพิ่มยอดขายอย่างมีแบบแผนด้วยกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสม
กลยุทธ์ที่นำมาใช้เป็นวิธีเพิ่มยอดขาย ไม่จำเป็นต้องเป็นการทำการตลาดที่ซับซ้อน แต่เป็นการเข้าใจพื้นฐานของการตลาด การขาย และการบริการ เพื่อคิดหาวิธีขายของให้น่าสนใจ รวมไปถึงการวิเคราะห์ยอดขายที่มีอยู่แล้ว เพื่อพัฒนาการทำงานในอนาคต เลือกใช้ระบบ CRM ที่สามารถรวบรวมข้อมูลทั้งหมด พร้อมสรุปออกมาในรูปแบบ Dashboard ที่เข้าใจง่าย และออกเอกสารที่จำเป็นได้อย่างมืออาชีพ
ระบบ SellStory ระบบ CRM & Sales Management จะช่วยให้ท่านเจ้าของธุรกิจหรือผู้จัดการฝ่ายขาย ติดตามใบเสนอราคา ติดตามการขาย Sales Pipeline ที่สามารถติดตามสถานะการขายได้ทันที จะช่วยให้ทีมขายสามารถทำงานได้เร็วขึ้น ลดความผิดพลาดจากการออกเอกสารได้มากขึ้น เพิ่มโอกาสปิดดีลได้แบบไม่มีสะดุด พร้อมเปลี่ยนทุกขั้นตอนที่ยุ่งยากในงานขาย ให้กลายเป็นเรื่องง่ายที่แม้จะเป็นนักขายมือใหม่ก็ทำได้
สมัครใช้งานฟรี! หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 095-371-7988 และ Line :@SellStory
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ วิธีการเพิ่มยอดขายด้วยกลยุทธ์การตลาด
1. วิธีเพิ่มยอดขายวิธีไหนที่ควรให้ความสำคัญมากที่สุด?
ทั้ง 12 วิธีนี้มีความสำคัญทั้งหมด ขึ้นอยู่กับวิธีการนำไปปรับใช้ แต่วิธีพื้นฐานที่ทุกธุรกิจควรใช้ คือ การทำความเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า เพราะตั้งแต่การผลิต คิดค้น ไปจนถึงการขาย ล้วนมีเป้าหมายอยู่ที่ความพึงพอใจ และการตัดสินใจซื้อของลูกค้า การทำความเข้าพฤติกรรมลูกค้า จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาดในการทำธุรกิจ
2. การติดตามลูกค้าควรทำบ่อยแค่ไหน?
ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและวิธีการตอบของลูกค้าแต่ละคน โดยปกติแล้วจะอยู่ที่ 2-3 วัน โดยประมาณ โดยเลือกใช้คำพูดที่สุภาพและไม่กดดันจนเกินไป
3. Omnichannel แตกต่างจาก Multichannel อย่างไร?
Multichannel คือ การขายสินค้าหลากหลายช่องทาง แต่ Omnichannel คือ การรวบรวมข้อมูลทุกช่องทางการขายมาอยู่ในช่องทางเดียว เพื่อความง่ายในการติดต่อและการหาประวัติอื่น ๆ ของลูกค้า
4. ใบเสนอราคาที่มีรายละเอียดครบถ้วน ส่งผลดีต่อธุรกิจอย่างไร?
ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความมืออาชีพ ทำให้ทีมขายสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น