วิธีติดตามใบเสนอราคาแบบมืออาชีพ ทำอย่างไร พร้อมขั้นตอนเป็นระบบ เพื่อไม่พลาดทุกการขาย

วิธีติดตามใบเสนอราคาแบบมืออาชีพ
การส่งใบเสนอราคาเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการทำธุรกิจ แม้ว่าวิธีทำใบเสนอราคาจะมีความซับซ้อนในเรื่องข้อมูลและรายละเอียดอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ยากกว่านั้นก็คือ “การติดตามใบเสนอราคา” หลังจากส่งให้ลูกค้า โดยเฉพาะเมื่อลูกค้าเงียบหายไป ซึ่งนั่นอาจหมายถึงการพลาดโอกาสทางธุรกิจเลยทีเดียว

เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในการปิดดีล บทความนี้ SellStory มีเคล็ดลับวิธีติดตามใบเสนอราคา แบบมืออาชีพเพื่อช่วยให้ทีมขายไม่พลาดโอกาสสำคัญมาแนะนำ

เลือกอ่านจากสารบัญ

ทำไมธุรกิจต้องติดตามใบเสนอราคา?

การติดตามใบเสนอราคา ไม่ใช่แค่ขั้นตอนสอบถามลูกค้าว่าได้รับเอกสารแล้วหรือยัง แม้ว่าใบเสนอราคาจะถูกส่งออกไปแล้ว แต่ลูกค้าหลายรายอาจยังไม่ได้ตัดสินใจในทันที การปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ติดตามหรือขอ Feedback อาจทำให้โอกาสทางการขายหลุดมือไป ซึ่งข้อดีของการติดตามใบเสนอราคา มีดังนี้

  • ลดความผิดพลาด :การติดตามใบเสนอราคา ช่วยลดความผิดพลาดและการเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ เช่น กรณีลูกค้าได้รับใบเสนอราคาแต่ข้อมูลบางส่วนไม่ครบ การติดตามจะช่วยให้ผู้ขายแก้ไขได้ทันท่วงที
  • ติดตามสถานะการตอบรับของลูกค้า : หลังลูกค้าได้รับใบเสนอราคา การติดตามเป็นหนึ่งในขั้นตอน Sales Tracking ที่ช่วยให้รู้ว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนใด เช่น รอตอบรับ อยู่ระหว่างเปรียบเทียบราคา หรือต้องการข้อเสนอพิเศษ
  • เพิ่มโอกาสปิดการขาย :การติดตามใบเสนอราคาด้วยความเหมาะสม จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจได้เร็วขึ้น พร้อมปรับกลยุทธ์ได้ทันเวลา

อ่านบทความที่น่าสนใจ เกี่ยวกับ : ใบเสนอราคา (Quotation) คืออะไร? พร้อมตัวอย่างที่นักขายมืออาชีพใช้เพื่อปิดดีล

ขั้นตอนการติดตามใบเสนอราคาอย่างมีประสิทธิภาพ

ขั้นตอนการติดตามใบเสนอราคาแบบมืออาชีพ

เพื่อให้การติดตามใบเสนอราคาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความเป็นมืออาชีพมากที่สุด ต่อไปนี้คือขั้นตอนการติดตามลูกค้าหลังส่งใบเสนอราคา มีอะไรบ้าง

1. บันทึกข้อมูลใบเสนอราคาอย่างครบถ้วน

ก่อนจะเริ่มติดตามใบเสนอราคา ทีมขายต้องมีข้อมูลที่ครบและถูกต้องตั้งแต่ขั้นตอนแรก การเก็บรวบรวมข้อมูลของใบเสนอราคาอย่างครบถ้วนจึงมีความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยรายละเอียดของข้อมูลบนใบเสนอราคาที่ต้องบันทึก ได้แก่

  • รายละเอียดผู้รับใบเสนอราคา (ชื่อบริษัท, ผู้ติดต่อ, ช่องทางการสื่อสาร)
  • รายละเอียดสินค้า หรือบริการที่เสนอ
  • จำนวนสินค้าและราคาต่อหน่วย
  • เงื่อนไขการชำระเงินและการส่งมอบ
  • วันหมดอายุของใบเสนอราคา

การบันทึกข้อมูลและรายละเอียดครบถ้วนจะช่วยให้การติดตามเป็นเรื่องง่าย และไม่พลาดข้อมูลสำคัญเมื่อต้องติดตามกับลูกค้า อาจเลือกใช้ระบบ CRM ที่มีฟีเจอร์ออกใบเสนอราคาแบบออนไลน์ เพื่อให้บันทึกและจัดเก็บใบเสนอราคาได้อย่างเป็นระบบ และติดตามได้อย่างแม่นยำ

2. ติดตามสถานะของใบเสนอราคา

เมื่อส่งใบเสนอราคาเรียบร้อยแล้ว ควรแบ่งสถานะการติดตามอย่างชัดเจน โดยอิงจากขั้นตอนในการขาย เช่น

  • เมื่อส่งให้ลูกค้าแล้ว ปรับสถานะเป็น “รอตอบรับ”
  • หากได้รับ Feedback หรือรออนุมัติ ใส่หมายเหตุ จากหัวหน้างาน หรือผู้บริหาร
  • อยู่ระหว่างการต่อรองราคา อาจทำการ Remark เพื่อคอยติดตาม
  • กรณีมีการยกเลิก หรือไม่ตอบกลับ

หากด้วยเหตุผล “ยกเลิกใบเสนอราคา” เราสอบถามสาเหตุ และนำมาปรับปรุงพัฒนา เพื่อเตรียมเสนอในรอบถัดไป

  • หากทำการปิดการขายได้สำเร็จ เราจะได้สามารถตรวจสอบวัดผลได้ง่ายยิ่งขึ้น

ทั้งหมดนี้ เป็นการติดตามสถานะใบเสนอราคาอย่างเป็นระบบ ช่วยบริหารจัดการในแต่ละขั้นตอนให้ฝ่ายขายสามารถดูสถานะบน Sales Pipeline ได้แบบเรียลไทม์ ทำให้เห็นภาพรวมและวางแผนการขายได้ง่ายขึ้น

อ่านบทความที่น่าสนใจ เกี่ยวกับ Sales Operation คืออะไร สำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจอย่างไร?

3. ตั้งแจ้งเตือนและกำหนดเวลาตรวจสอบ

การตั้งระบบแจ้งเตือนช่วยให้ทีมขายไม่พลาดการติดตามใบเสนอราคา เพราะไม่ใช่แค่ลูกค้าที่อาจจะ “ลืมตอบกลับ” แต่ผู้ขายเองก็อาจจะ “ลืมติดตาม”ได้เช่นกัน โดยเฉพาะหากเลยระยะเวลาติดตามไปเกินกว่า 7 วัน ก็อาจจะทำให้พลาดโอกาสปิดการขายได้

สำหรับการแจ้งเตือนอาจใช้เครื่องมือสำหรับงานขายอย่างระบบ CRM SellStory ในการติดตามหลังจากส่งใบเสนอราคา โดยกำหนดระยะเวลาในการติดตามใบเสนอราคาหลังส่งให้ลูกค้าภายใน 3-5 วันซึ่งการติดตามสามารถทำได้ทั้งวิธีโทรศัพท์และส่งอีเมลสอบถาม

4. สื่อสารกับลูกค้าอย่างมืออาชีพ

หากถึงรอบการติดตามใบเสนอราคา ควรติดตามด้วยวิธีที่เหมาะสมกับลูกค้า พร้อมทั้งใช้การสื่อสารอย่างมืออาชีพและสุภาพ ดังนี้

  • อีเมลติดตาม: ส่งข้อความที่สุภาพ ถามถึงความเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอ และอาจยื่นข้อเสนอพิเศษ หรือโปรโมชันเพิ่มเติม
  • โทรศัพท์ติดตาม : พูดคุยเพื่อสอบถามความคืบหน้า พร้อมเสนอแนวทางเพิ่มเติม หรืออาจใช้วิธีติดต่อทางโทรศัพท์สอบถามกับผู้มีอำนาจตัดสินใจโดยตรง
  • ติดตามผ่านระบบแชท :ระบบแชทหรือการทำChat Commerce สามารถใช้ติดตามใบเสนอราคาได้เช่นกัน ข้อดีคือเสนอโปรโมชันและสิทธิพิเศษได้แบบเรียลไทม์ โดยหากเรามีระบบรวมแชททุกแพลตฟอร์มจะช่วยให้ทีมบริการลูกค้า (Customer Service) ทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น

ตัวอย่างการสื่อสาร

“เรียนคุณ [ชื่อ] ทีมงานของเราได้ส่งใบเสนอราคาไปเมื่อวันที่ [วันที่ส่ง] ไม่ทราบว่าทางบริษัทได้พิจารณาแล้วหรือยัง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เรายินดีให้คำแนะนำเพิ่มเติมครับ/ค่ะ”

อ่านบทความที่น่าสนใจ เกี่ยวกับ Telesales คืออะไร? ยังจำเป็นอยู่มั้ย ในยุคที่ตลาดดิจิทัลเติบโต

5. วิเคราะห์ผลและปรับปรุงกระบวนการ

การติดตามใบเสนอราคาไม่ได้จบแค่การรอคำตอบจากลูกค้า แต่ควรมีการเก็บสถิติและวิเคราะห์ผลการติดตาม เพื่อปรับปรุงกระบวนการขายในอนาคต โดยส่วนที่สามารถนำมาวิเคราะห์ได้ เช่น

  • อัตราการตอบรับใบเสนอราคา
  • ระยะเวลาเฉลี่ยในการปิดการขาย
  • ปัญหาที่พบบ่อย เช่น ราคา หรือเงื่อนไขการชำระเงิน
  • วิธีติดตามใบเสนอราคาที่ได้ผลมากที่สุด

ข้อมูลเชิงสถิติเหล่านี้จะกลายเป็นรากฐานสำคัญในการปรับปรุงกลยุทธ์การขายให้สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าแต่ละกลุ่ม

ข้อดีของการติดตามใบเสนอราคา

ข้อดีของการติดตามใบเสนอราคา

นอกจากช่วยให้ฝ่ายขายทราบความคืบหน้าของเอกสารแล้ว การติดตามใบเสนอราคายังส่งผลดีในหลายด้าน ได้แก่

  • การทำงานของทีมขายเป็นระบบมากขึ้น ทุกดีลมีการบันทึกสถานะและติดตามอย่างต่อเนื่อง
  • การติดตามใบเสนอราคาอยู่เสมอ จะช่วยลดข้อผิดพลาดและเอกสารสูญหาย เพราะมีการจัดเก็บไว้อย่างเป็นระบบ สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ง่าย
  • เพิ่มความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ ลูกค้ารับรู้ถึงความใส่ใจและความเป็นมืออาชีพ
  • ช่วยให้วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวางแผนการขายครั้งต่อไป สามารถดูประวัติการเสนอราคาและผลลัพธ์ในแต่ละรอบได้อย่างแม่นยำ

แนะนำระบบ CRM & Sales Management จาก SellStory

ระบบออกใบเสนอราคา เพื่อให้การติดตามใบเสนอราคาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ขอแนะนำ ระบบ CRM & Sales Management จาก SellStory เครื่องมือในงานขายที่มีระบบออกใบเสนอราคา พร้อมฟีเจอร์เด่นอย่าง

  • เทมเพลตตัวอย่างใบเสนอราคา ที่ปรับแต่งให้ตอบโจทย์กับธุรกิจได้ง่าย
  • ระบบจัดเก็บใบเสนอราคาแบบออนไลน์
  • ตั้งสถานะและระบบเตือนอัตโนมัติ
  • ดูประวัติการติดตามลูกค้าแบบเรียลไทม์
  • ระบบรวมแชทจากหลายช่องทาง ช่วยให้ติดต่อลูกค้าได้รวดเร็ว
  • ระบบเก็บข้อมูลลูกค้า คอยติดตามสถานะได้แบบไม่ผิดพลาด
  • แสดงรายงานยอดขายและใบเสนอราคาผ่าน Sales Dashboard เพื่อนำไปวิเคราะห์และปรับกลยุทธ์ได้ง่าย

นอกจากนี้ SellStory ยังสามารถใช้งานได้ทั้ง Desktop, Web Browser และ Mobile Application พร้อมให้ผู้จัดการฝ่ายขายและผู้ประกอบการสามารถ บริหารงานขายได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่พลาดทุกโอกาสปิดการขาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แพ็กเกจและราคา

ติดตามใบเสนอราคาอย่างเป็นระบบ ด้วย ระบบ crm จาก sellstory

ติดตามใบเสนอราคาอย่างเป็นระบบ เพื่อโอกาสปิดการขายที่ราบรื่น

สรุปหากเรามีการติดตามใบเสนอราคาอย่างเป็นระบบ ไม่เพียงแค่บอกถึงความเป็นมืออาชีพเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่ช่วยให้ฝ่ายขายสามารถควบคุมสถานะบน Pipeline ได้ดียิ่งขึ้นด้วย เพราะฝ่ายขายจะรู้ว่าใบเสนอราคาไหนมีแนวโน้มที่จะปิดดีลได้ หรือลูกค้าคนไหนที่ต้องการข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติม การติดตามใบเสนอราคาจึงเป็น “เรื่องสำคัญ”ที่ไม่ควรมองข้าม

สำหรับท่านที่ต้องการยกระดับการทำใบเสนอราคา และติดตามใบเสนอราคาให้มีประสิทธิภาพ ระบบ CRM​ & Sales Management จาก SellStoryจะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในงานขาย ที่จะช่วยเชื่อมต่อขั้นตอนการจัดทำเอกสารการขาย ไปจนถึงการติดตามสถานะเพื่อปิดดีลได้บนระบบเดียว ช่วยเปลี่ยนงานขายที่ยุ่งยาก ให้กลายเป็นเรื่องง่ายที่จัดการได้ด้วยปลายนิ้ว

สมัครใช้งานฟรี! หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 095-371-7988 และ Line :@SellStory

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ การติดตามใบเสนอราคา

1. ควรติดตามใบเสนอราคาหลังจากส่งภายในกี่วัน?

แนะนำให้ติดตามภายใน 3–5 วันหลังส่งใบเสนอราคา และไม่ควรเกิน 7 วัน เพื่อแสดงความใส่ใจโดยไม่เร่งรัดเกินไป

2. การติดตามใบเสนอราคาควรใช้ช่องทางไหนดีที่สุด?

ขึ้นอยู่กับลักษณะลูกค้า หากเป็นองค์กรใหญ่ อีเมลหรือโทรศัพท์จะให้ความรู้สึกที่เป็นมืออาชีพ แต่ถ้าเป็นลูกค้ารายย่อยอาจใช้ระบบรวมแชท หรือโทรสอบถามเพิ่มเติมได้

3. ติดตามใบเสนอราคาแบบออนไลน์ได้ไหม?

ได้ และค่อนข้างดีกว่าการส่งใบเสนอราคารูปแบบเอกสาร เพราะสามารถดูสถานะเอกสารได้แบบเรียลไทม์ ติดตามได้ง่าย และหากใช้ระบบ CRM ของ SellStory ก็สามารถจัดการแก้ไขใบเสนอราคาได้ทันที

4. การวิเคราะห์ใบเสนอราคาช่วยอะไรทีมขาย?

ช่วยให้รู้ว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจ เช่น ราคา เงื่อนไข หรือช่วงเวลา ทำให้ปรับกลยุทธ์ปิดการขายได้แม่นยำขึ้น

บทความที่น่าสนใจจาก SellStory CRM

อ่านบทความ อัปเดตเทรนด์และเกร็ดความรู้ดี ๆ สำหรับงานขาย

sales operation มีความสำคัญกับธุรกิจอย่างไร

Sales Operation สำคัญอย่างไร? กลยุทธ์และประโยชน์ เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจเติบโตอย่างมีระบบ

การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน ต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย นอกจากต้องขายเก่งแล้ว การมีระบบการทำงานที่ช่วยสนับสนุนทีมขายที่ดี ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้เองทำให้ Sales Operation คือกระบวนการสำคัญที่ทุกธุรกิจจำเป็นต้องนำมาใช้บริหารด้านการขาย

สำหรับบทความนี้ SellStory จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับหน้าที่และบทบาทของ “Sales Operation”พร้อมแนะนำกลยุทธ์ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับงานขายได้มากขึ้น
telesales คืออะไร ต้องใช้ทักษะอะไรบ้าง

Telesales คืออะไร? เจาะลึกงานขายทางโทรศัพท์ พร้อมกลยุทธ์ และทักษะที่มืออาชีพต้องมี

การทำธุรกิจในยุคนี้ต้องแข่งขันกันหลายช่องทาง เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นยุคดิจิทัล การตลาดออนไลน์จึงเป็นเรื่องที่ฝ่ายขายหรือผู้ประกอบการให้ความสำคัญ แต่หนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่อยู่คู่กับงานขายมาเป็นเวลานานอย่าง Telesalesก็ยังคงมีความสำคัญและช่วยปิดดีลใหญ่ ๆ ได้เช่นเดียวกัน

บทความนี้ SellStory เลยอยากชวนนักขายและผู้ประกอบการมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “Telesales ให้มากขึ้นกัน พร้อมแนะนำทักษะสำคัญที่ควรมี” เพื่อเพิ่มโอกาสปิดการขายได้อย่างเป็นมืออาชีพมากขึ้น
chat commerce คืออะไร สำคัญต่อธุรกิจในยุคนี้หรือไม่

Chat Commerce คืออะไร? รู้จักการขายผ่านแชทที่ช่วยเพิ่มยอดขายในยุคออนไลน์

ปัจจุบันการแชทไม่ได้เป็นเพียงแค่การสื่อสารระหว่างผู้คนเท่านั้น เพราะการทำธุรกิจก็จำเป็นต้องมีระบบแชทที่สามารถสื่อสารระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายด้วย ทำให้ Chat Commerceหรือ การขายผ่านแชทกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับธุรกิจยุคใหม่ ที่ช่วยสร้างยอดขายและความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าได้ในเวลาเดียวกัน

ใครที่กำลังสนใจเรื่องการขายผ่านแชท บทความนี้ SellStory จะพาคุณไปรู้จักกับ “Chat Commerce” ตั้งแต่ความหมายว่าคืออะไร ทำไมถึงสำคัญ และธุรกิจควรใช้ระบบใด เพื่อให้การขายผ่านแชทเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด