Sales Dashboard คืออะไร?
Sales Dashboard คือ เครื่องมือวิเคราะห์ยอดขายและติดตามผลการทำงานของทีมขายแบบเรียลไทม์ โดยรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งมาจัดเก็บ พร้อมแสดงผลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เช่น กราฟ แผนภูมิ และตาราง ไม่ว่าจะเป็น ยอดขายปัจจุบัน สถานะลูกค้าแต่ละราย หรือแม้แต่ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานแต่ละคน ก็ถูกมาจัดเก็บไว้ในที่เดียว
ทำไม Sales Dashboard ถึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญ?
- เห็นภาพรวมได้ทันที : Sales Dashboard รวบรวมข้อมูลยอดขายจากระบบ CRM การตลาด และการเงินไว้ในที่เดียว ทำให้ได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ พร้อมนำไปใช้งานได้ทันที
- วิเคราะห์และตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น : การเห็นภาพรวมแบบเรียลไทม์ ทั้งอัตรา Conversion หรือผลงานของทีมขายแต่ละคน ทำให้สามารถวิเคราะห์ยอดขายได้อย่างแม่นยำ และตัดสินใจด้านกลยุทธ์การขายและการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ขับเคลื่อนทีมให้มีประสิทธิภาพสูงสุด : Dashboard ยอดขาย ช่วยเรื่อง Sales Management ได้ง่ายขึ้น ผ่านการดูรายงานสรุปยอดขาย และ KPI ของแต่ละคนได้แบบอัตโนมัติ ทำให้ผู้จัดการทีมรู้ว่าควรให้ความช่วยเหลือใคร หรือใครควรได้รับแรงจูงใจเพิ่มเติม ทำให้ทีมทำงานได้อย่างเต็มที่และโฟกัสไปที่การปิดการขายเป็นหลัก
- สร้างวัฒนธรรมองค์กร Data-Driven ที่แข็งแกร่ง : ตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลจริงได้ง่ายขึ้น ทำให้ธุรกิจแข็งแกร่งและสามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน
อ่านบทความที่น่าสนใจ:เจาะลึก Data Management ทริคจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ให้มีประสิทธิภาพ

Sales Dashboard ที่ดีควรมีอะไรบ้าง?
เครื่องมือรายงานสรุปยอดขายที่ดี ควรมีองค์ประกอบเหล่านี้
1. รายงานสรุปยอดขายอัตโนมัติ
ช่วยลดเวลาการทำงานซ้ำซ้อน ไม่ต้องดึงข้อมูลจากหลายไฟล์หรือทำรายงานด้วย Excel เอง ระบบจะรวมข้อมูลและสร้างรายงานสรุปยอดขายอัตโนมัติแบบเรียลไทม์
2. KPI (Key Performance Indicators)
การมี KPI ที่ชัดเจนทำให้ทีมขายรู้ว่าควรโฟกัสตรงไหน เพื่อไปถึงเป้าหมาย เช่น
- ยอดขายรวม
- ยอดขายตามสินค้า/บริการ
- ยอดขายรายบุคคล
- ยอดขายแยกตามช่องทาง ทั้งออนไลน์/ออฟไลน์
- จำนวนลูกค้าใหม่
- อัตราการปิดการขาย
3. ข้อมูล Sales Pipeline
แสดงสถานะ Sales Pipeline ดีลต่าง ๆ ที่กำลังดำเนินการอยู่ ตั้งแต่ Lead ที่กำลังดีล เพื่อเจรจา หรือดีลปิดการขาย เพื่อให้ทีมไม่พลาดทุกโอกาส และผู้บริหารสามารถวัด Performance การขายของทีมได้ทันที
4. แสดงผลด้วยกราฟและแผนภูมิที่เข้าใจง่าย
แทนที่จะเห็นตัวเลขเรียงกันยาว ๆ Sales Dashboard ที่ดี ควรนำเสนอผ่านกราฟ แผนภูมิ และดัชนีที่อ่านง่าย ทำให้ผู้ใช้งานเข้าใจแนวโน้มการเติบโตและจุดที่ต้องแก้ไขได้ในไม่กี่วินาที
5. ฟังก์ชันการกรองข้อมูล (Filter)
ช่วยให้ค้นหาข้อมูลได้สะดวก เช่น กรองตามช่วงเวลา กรองตามทีม หรือกรองตามสินค้า เพื่อดูรายละเอียดเชิงลึกในมุมที่ต้องการได้ทันที
6. Real-time Update
การตัดสินใจเรื่องการขายต้องการความรวดเร็ว ข้อมูลจ้องต้องอัปเดตแบบเรียลไทม์ เพราะข้อมูลที่สดใหม่คือสิ่งที่ช่วยให้ทีมขายปิดดีลได้ทันเวลา
7. การแบ่งสิทธิ์ผู้ใช้งาน (User Permission)
ไม่ใช่ทุกคนในทีมที่ควรเห็นข้อมูลเดียวกัน เช่น ผู้บริหาร สามารถดูภาพรวมยอดขายทั้งหมดได้ ในขณะที่ Sales ก็อาจจำกัดสิทธิ์ไว้ให้ดูเฉพาะดีลที่ตัวเองรับผิดชอบ เพื่อให้จัดการข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและเป็นระเบียบมากขึ้น
8. การแจ้งเตือนอัตโนมัติ
มีการแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญ เพื่อให้ทีมขายไม่พลาดทุกโอกาสในการติดตามลูกค้า และแก้ปัญหาได้ทันที เช่น
- ดีลใกล้ครบกำหนดแต่ยังไม่ปิด
- ยอดขายรายเดือนต่ำกว่าเป้า
- ลูกค้าใหม่เข้ามาในระบบ

อยากสร้าง Dashboard เริ่มต้นอย่างไรดี?
Dashboard ยอดขายที่ดีไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด มาลงมือสร้าง Dashboard Sales ไปพร้อมกันเลย!
1. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
เริ่มจากทำตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนก่อนว่าอยากเห็นอะไรใน Dashboard ยอดขาย บ้าง เช่น อยากได้ยอดขาย 1 ล้านบาทต่อปี หรืออยากได้ลูกค้าใหม่ 100 คนต่อเดือน เมื่อเป้าชัด การเดินหน้าก็ง่ายขึ้น!
2. เลือกตัวชี้วัดที่ใช่
พอมีเป้าแล้วก็ต้องมาเลือกตัวชี้วัดที่สนับสนุนเป้านั้น ๆ เช่น ถ้าเป้าคือยอดขาย 1 ล้านบาท ตัวชี้วัดก็ต้องมี ยอดขายรวม มูลค่าดีลใน Pipeline หรือ อัตราการปิดการขาย อย่างไรก็ตาม ควรเลือกมาแค่ 3-4 ตัวก็พอ เพื่อให้ไม่เกิดความสับสนในภายหลัง
3. แบ่งสิทธิ์เข้าถึงให้ดี
ข้อมูลบางอย่างเป็นความลับเฉพาะผู้บริหาร แต่ข้อมูลบางอย่างก็ควรแชร์ให้ทั้งทีม เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพและร่วมมือกันได้อย่างเต็มที่
4. เลือกตัวช่วยที่เข้ามือ
ในยุคนี้มีเครื่องมือมากมาย แต่ทางลัดที่ดีที่สุดคือการเลือกระบบ CRM ที่มี แดชบอร์ดวิเคราะห์ยอดขาย มาให้พร้อม ไม่ต้องเสียเวลามานั่งเชื่อมต่อหลายโปรแกรมให้วุ่นวาย
5. เชื่อมข้อมูลให้เรียบร้อย
การซิงก์ข้อมูลการขายแบบเรียลไทม์ช่วยให้งานขายง่ายขึ้นเยอะ! เพราะข้อมูลใน Dashboard ของจะอัปเดตอัตโนมัติ ไม่ต้องมานั่งกรอกใหม่ให้เสียเวลา
6. สร้างและแชร์ Dashboard
เมื่อทุกอย่างพร้อม ก็สร้าง Dashboard ในสไตล์ที่ต้องการแล้วแชร์ให้ทีม เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพเดียวกัน รู้ว่าต้องทำอะไร และพร้อมที่จะพาทีมทะยานไปข้างหน้า

สรุป วิเคราะห์และบริหารงานขาย Sales Dashboard ให้ง่ายขึ้นไปกับ SellStory
Sales Dashboard คือเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจมองเห็นภาพรวมยอดขายได้ชัดเจน ติดตาม KPI ได้ครบ วิเคราะห์แนวโน้มการขาย และใช้ข้อมูลจริงในการวางกลยุทธ์ เพิ่มโอกาสปิดการขายได้แม่นยำและรวดเร็วขึ้น
แต่จะง่ายและครบยิ่งกว่า หากใช้ ระบบ CRM & Sales Management จาก SellStory เพราะเราไม่ได้มีแค่แดชบอร์ดยอดขาย แต่ยังรวมครบทั้งระบบเก็บข้อมูลลูกค้าเก็บและจัดการข้อมูลลูกค้าได้อย่างละเอียด ระบบจัดการงานขาย ช่วยติดตามดีลและงานขายได้อย่างเป็นระบบ ระบบรวมแชท รวมทุกการสื่อสารจากหลายช่องทางไว้ในที่เดียว พร้อมซิงก์ข้อมูลพร้อมรายงานการขายและแดชบอร์ดวิเคราะห์ยอดขายแบบเรียลไทม์โดยอัตโนมัติ ให้ทีมขายทำงานง่ายขึ้น เห็นข้อมูลครบถ้วน และพาธุรกิจเติบโตได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุด
สมัครทดลองใช้งานฟรี! ได้ทั้งบน Desktop Web Browser และ Mobile Application
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 095-371-7988 หรือแอดไลน์ @sellstory
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Sales Dashboard
1. Sales Dashboard ช่วยเพิ่มยอดขายได้จริงไหม?
ช่วยได้จริง เพราะการมีข้อมูลที่ถูกต้องและเข้าใจง่าย ช่วยให้ทีมขายตัดสินใจเร็วขึ้น พร้อมปรับกลยุทธ์ได้ตรงจุด มีทักษะการขาย และไม่พลาดโอกาสในการปิดการขาย
2. ควรดูข้อมูลไหนใน Sales Dashboard เป็นอันดับแรก?
เริ่มจาก Sales Pipeline ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้รู้ว่าดีลที่อยู่ในมือของคุณมีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว จากนั้นจึงดูรายงานสรุปยอดขายรายบุคคล เพื่อเปรียบเทียบกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ และปิดท้ายด้วยการดูว่าดีลไหนที่ใกล้จะถึงกำหนดการปิดการขายแล้วบ้าง
3. Sales Dashboard แก้ปัญหาในงานขายอะไรได้บ้าง?
Sales Dashboard ช่วยแก้ปัญหาหลักในงานขายได้หลายด้าน เช่น แสดง KPI รายบุคคลและรายทีมอย่างชัดเจน แก้ปัญหาการประเมินผลงานทีมขายยาก มีรายงานสรุปยอดขายอัตโนมัติ ลดงานซ้ำซ้อน แยกข้อมูลตามสินค้าและช่องทางการขาย เพื่อแสดงสินค้าหรือช่องทางที่ทำเงินมากที่สุด เป็นต้น