ทักษะการขาย คืออะไร?
ทักษะการขาย คือ ความสามารถที่นักขายใช้ในการสื่อสารเพื่อโน้มน้าว และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ตั้งแต่เริ่มต้นรู้จัก จนกระทั่งลูกค้าตัดสินใจซื้อและกลับมาซื้อซ้ำ แต่ทักษะการขายสำคัญไม่ได้จำกัดอยู่แค่การพูดเก่งหรือเสนอราคา เพราะยังรวมไปถึงความเข้าใจลูกค้า การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการใช้เครื่องมือดิจิทัล อย่าง CRM & Sales Management เพื่อให้การขายมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
นอกจากทักษะแล้ว นักขายที่ประสบความสำเร็จยังต้องมีคุณสมบัติที่ช่วยเสริมพลังการขาย เช่น ความน่าเชื่อถือ ความมุ่งมั่น และทัศนคติเชิงบวก คุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยทำให้ลูกค้าไว้วางใจและเลือกซื้อกับเราง่ายขึ้น
อ่านบทความที่น่าสนใจ :เทคนิคปิดการขายที่จะช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจคุณ พร้อมยกตัวอย่าง
12 ทักษะการขายสำคัญที่ Sales Team ยุคใหม่ต้องรู้
การขายในปัจจุบันไม่ได้อาศัยเพียงการพูดเก่งอีกต่อไปแล้ว แต่ต้องอาศัยทักษะที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Soft Skills, Hard Skills และ Digital Skills มาดูกันว่า ทักษะการขายอะไรบ้างที่ทีมขายยุคใหม่ต้องพัฒนา ไปดูกันเลย!

1. การวางแผนอย่างเป็นระบบ (Planning Skills)
ก่อนจะเริ่มขาย การวางแผนคือก้าวแรกที่สำคัญ นักขายที่ดีควรมีการวางแผนล่วงหน้า รู้ว่าจะหาลูกค้าจากที่ไหน ตั้งเป้ายอดขายอย่างไร จัดการตารางเวลาแบบไหน ใช้ข้อมูลอะไรสนับสนุน และคาดการณ์อุปสรรคที่จะเจอ เพื่อให้การขายเป็นระบบและไม่พลาดโอกาสสำคัญ
ลองใช้ ระบบจัดการงานขาย ของ SellStory เพื่อวางแผน Pipeline และตั้งกิจกรรมการขาย เช่น นัดหมายหรือติดตามลูกค้า เพื่อให้แผนไม่หลุดและทีมทำงานเป็นระบบได้มากยิ่งขึ้น
2. การคิดวิเคราะห์ & นวัตกรรม (Analytical & Innovative Thinking)
การขายในยุคนี้แค่พูดให้ลูกค้าฟังอาจไม่เพียงพอ แต่ต้องวิเคราะห์พฤติกรรมจากข้อมูลที่มี เช่น ประวัติการซื้อ หรือการสนทนาเดิม ๆ เพื่อเสนอสิ่งที่ตรงใจลูกค้าจริง ๆ เพราะข้อมูลลูกค้าคืออาวุธลับในการปิดการขายที่สำคัญ นักขายที่อ่านข้อมูลออกและมองหาความเชื่อมโยงได้ ก็จะสามารถหาลูกค้าใหม่และเจอโอกาสการขายได้ก่อนใคร
แดชบอร์ดการขายของ SellStory เป็นตัวช่วยวิเคราะห์สินค้าที่ขายดี ไปจนถึงวิเคราะห์ลูกค้าที่มีแนวโน้มซื้อต่อ หรือดีลที่ค้างอยู่ เพื่อนำข้อมูลมาช่วยตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ
3. การสื่อสารโน้มน้าวใจ (Communication Skills)
ทักษะสำคัญที่สุดที่ Sales Team ควรมี คือ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ชัดเจน ตรงประเด็น เข้าใจง่าย และจริงใจ การอธิบายคุณค่าของสินค้าให้ตรงใจลูกค้า ช่วยให้ลูกค้าเกิดความสนใจได้ตั้งแต่การติดต่อครั้งแรกเลยทีเดียว
และถ้าอยากมัดใจลูกค้าให้แน่นกว่าเดิม ก็ต้องทำให้พวกเขาติดต่อเราได้ง่ายและรวดเร็ว ด้วย ระบบรวมแชท จาก SellStory ที่รวม LINE, Facebook, IG และช่องทางอื่น ๆ มาไว้ในที่เดียว ไม่พลาดทุกข้อความสำคัญ และตอบกลับลูกค้าได้ทันใจเสมอ

4. การฟังเชิงลึก (Active Listening Skills)
นักขายที่ดีไม่ใช่แค่ฟังไปเรื่อย แต่ต้อง “ฟังเป็น” การฟังอย่างตั้งใจจะช่วยให้เราเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า เพราะหลายครั้งลูกค้ามักหลุดพูดความต้องการที่ซ่อนอยู่ระหว่างบทสนทนา ซึ่งนักขายที่ฟังเก่งจะจับสัญญาณเหล่านี้ได้ ประกอบกับใส่ใจความคิดเห็นลูกค้า ก็จะสามารถนำเสนอสิ่งที่ตอบโจทย์และตรงใจลูกค้าที่สุด
จดทุก Insight เก็บไว้ในระบบ CRMเพื่อให้ไม่พลาดทุกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของลูกค้าแต่ละคน ที่อาจกลายเป็นกุญแจสำคัญในการปิดการขายครั้งต่อไป
5. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
เมื่อลูกค้าเจอข้อเสนอขายมากมายทุกวัน ความคิดสร้างสรรค์จะทำให้เราโดดเด่น! ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องสินค้า (Storytelling) การทำโปรโมชันให้แปลกใหม่ หรือใช้สื่อดิจิทัลสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ อย่างการสร้างใบเสนอราคาที่ปรับแต่งดีไซน์ได้ เพิ่มความน่าเชื่อถือและทำให้ลูกค้าประทับใจตั้งแต่แรกเห็น
6. การเรียนรู้และหาโอกาสใหม่ (Active Learning)
Active Learning เป็นทักษะการขายที่ต้องลงมือปรับตัวให้ทันกับสิ่งรอบตัวเพื่อคว้าโอกาสและขยายตลาด ยิ่งทีมขายมองหาโอกาสใหม่ได้มากเท่าไร ก็ยิ่งสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นได้มากเท่านั้น เพราะตลาดเปลี่ยนแปลงเร็ว เทรนด์ใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา นักขายที่พร้อมเรียนรู้เทคนิคใหม่ ๆ อัปเดตตัวเองอยู่เสมอ และไม่หยุดมองหาลูกค้า จะเห็นโอกาสที่คนอื่นมองข้าม
ใช้ระบบรายงานการขายและแดชบอร์ดของ SellStory เพื่อติดตามเทรนด์ลูกค้าใหม่ วิเคราะห์ว่าสินค้าไหนกำลังมาแรง หรือช่องทางใดที่ลูกค้าทักเข้ามามากที่สุด เช่น LINE หรือ Facebook Messenger ช่วยให้ทีมขายหาลู่ทางใหม่ ๆ ได้แม่นยำ และวางกลยุทธ์เชิงรุกได้อย่างทันท่วงที
เพิ่มประสิทธิภาพให้ Sales Team ของคุณวันนี้! ด้วยระบบ CRM จาก SellStory ตรวจสอบแพ็กเกจที่นี่

7. การนำเสนออย่างมืออาชีพ (Presentation Skills)
การนำเสนอที่ดี ไม่ได้หมายถึงสไลด์สวย ๆ เพียงอย่างเดียว แต่คือการทำให้ลูกค้าเห็นภาพชัด ๆ ว่า สินค้าของเราช่วยแก้ปัญหาอะไรให้เขาได้บ้าง นักขายที่พูดชัดเจน มั่นใจ และเล่าได้โดนใจ ย่อมมีโอกาสชนะใจลูกค้าได้มากกว่า
หลังจบการนำเสนอ ลองส่งใบเสนอราคา หรือโบรชัวร์ออนไลน์ทันที เพื่อไม่ให้ความสนใจของลูกค้าหายไป เพิ่มโอกาสปิดการขายได้อย่างต่อเนื่อง
8. การเจรจาต่อรอง (Negotiation Skills)
เมื่อถึงช่วงพูดคุยเรื่องราคา เงื่อนไข หรือการส่งมอบสินค้า ทักษะการขายที่เป็นพระเอกของงานนี้ก็คือ การเจรจาต่อรองนั่นเอง เพราะนี่คือช่วงชี้เป็นชี้ตายว่าดีลนี้จะสำเร็จหรือไม่ หาก Sales Team มีทักษะนี้ก็จะสามารถหาจุดตรงกลางที่ทั้งลูกค้าและบริษัทต่างก็พอใจ ไม่ทำให้ใครรู้สึกเสียเปรียบ และยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้อีกด้วย
ถ้าอยากให้ลูกค้ามั่นใจมากขึ้น อย่าพูดจากความรู้สึกเพียงอย่างเดียว แต่ควรอ้างอิงด้วยข้อมูลจริง เช่น Sales Reportยอดขายที่ผ่านมา หรือความคุ้มค่าที่พิสูจน์ได้ เมื่อลูกค้าเห็นตัวเลขจริงก็จะเกิดความเชื่อมั่นทันทีว่าข้อเสนอของเรามีน้ำหนักและคุ้มค่าที่จะตัดสินใจ
9. การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า (Problem-Solving)
ลูกค้ามักมีคำถาม ข้อสงสัย หรือปัญหาเฉพาะหน้า นักขายที่สามารถแก้ไขได้รวดเร็วและมั่นใจ จะสร้างความน่าเชื่อถือได้ทันที
ปัญหามักจะโผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นสินค้าส่งผิด รุ่นไม่ตรงตามที่สั่ง สินค้าเสียหาย หรือแม้กระทั่งการตอบคำถามยาก ๆ จากลูกค้า ล้วนเป็นด่านทดสอบไหวพริบของทีมขายทั้งสิ้น และหากเพียงตอบช้าหรือแก้ปัญหาล่าช้าไม่กี่นาที อาจทำให้ลูกค้าตัดสินใจไปหาคู่แข่งแทนได้เลย ดังนั้น ทักษะการขายที่สำคัญมากก็คือ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างฉับไวและตรงประเด็น
และเพื่อให้ทำงานได้คล่องขึ้น การมีเครื่องมืออย่าง ระบบ CRM & Sales Management จาก SellStoryช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้มากกว่าที่คิด ด้วยระบบรวมแชทและข้อมูลลูกค้าไว้ในที่เดียว ช่วยให้ทีมขายตอบลูกค้าได้อย่างฉับไว แก้ได้ตรงจุด ไม่พลาดทุกโอกาสสำคัญ

10. การสร้างความสัมพันธ์ (Relationship Building)
ลูกค้าที่เชื่อใจ มักจะกลับมาซื้อซ้ำและแนะนำต่อ การดูแลหลังการขายจึงเป็นทักษะที่ห้ามมองข้าม
การขายที่ดีไม่ใช่แค่ปิดดีลได้ แต่คือการทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ และยิ่งไปกว่านั้นคือเกิดการแนะนำต่อ โดยลูกค้าที่เชื่อใจเรา ซึ่งจะกลายเป็นกระบอกเสียงสำคัญที่ช่วยขยายฐานลูกค้าได้โดยไม่ต้องลงทุนโฆษณาเพิ่ม การดูแลหลังการขายจึงเป็นทักษะการขายที่ห้ามละเลยเด็ดขาด
11. การทำงานเป็นทีม (Teamwork)
ยอดขายจะเติบโตได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งทีมที่แชร์ข้อมูลและการประสานงานอย่างมีระบบ คือกุญแจสำคัญที่จะพาธุรกิจไปถึงเป้าหมาย การแชร์ข้อมูลและประสานงานจึงสำคัญมาก ดังนั้น นักขายที่ดีไม่ใช่แค่เก่งคนเดียว แต่ต้องทำงานร่วมกับทีมได้อย่างมีระบบ
Sellstoryมีฟีเจอร์จัดการงานขาย ที่บอกว่าลูกค้าคนนี้อยู่ในการดูแลของใคร ควบคู่ไปกับฟีเจอร์วัด Performance ของทีม เช่น ใครทำยอดขายได้เท่าไร หรือใครกำลังติดขัดอยู่ตรงไหน ทีมก็สามารถเข้ามาช่วยเหลือได้แบบเรียลไทม์ทำให้ทั้งผู้จัดการทีมและทีมงานเห็นภาพรวมการทำงานได้ชัดเจน ทำงานไปในทิศทางเดียวกัน และสร้างพลังทีมที่แข็งแกร่งกว่าการลุยเดี่ยว
12. การใช้ระบบ CRM อย่างมีประสิทธิภาพ
สุดท้ายแล้ว หาก Sales Team อยากยกระดับการขายให้เหนือกว่าคู่แข่ง สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการผสมผสานทักษะการขายเข้ากับระบบ CRM อย่างจริงจัง ระบบ CRM จะช่วยให้นักขาย
- บริหารข้อมูลลูกค้าได้ครบถ้วน
- จัดการโอกาสการขายอย่างเป็นระบบ
- ติดตามสถานะทุกขั้นตอนของการขายได้อย่างแม่นยำ
- สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า
ช่วยให้ทุกการตัดสินใจจะมีข้อมูลรองรับ ทีมขายทำงานได้เร็วขึ้น มั่นใจขึ้น และไม่พลาดแม้แต่โอกาสเดียว
อ่านบทความที่น่าสนใจ : 7 สัญญาณสำคัญ ที่บอกว่า ระบบ CRM จำเป็นสำหรับธุรกิจของคุณ
สรุป เสริมทักษะการขายให้ Sales Team ของคุณ ด้วยระบบ CRM & Sales Management จาก SellStory
ทักษะการขายเพียงอย่างเดียวอาจช่วยให้งานขายง่ายขึ้น แต่ถ้าอยากให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนและปิดการขายได้ต่อเนื่อง ทีมขายยุคใหม่ต้องผสมผสานทักษะเข้ากับเครื่องมือที่ช่วยให้ทุกขั้นตอนเป็นระบบ โปร่งใส และทำงานได้เร็วกว่าเดิม
ระบบ CRM ของ SellStory ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับทีมขาย ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูลลูกค้า การจัดการงานขาย การรวมแชท การออกใบเสนอราคา ไปจนถึงการดูรายงานแบบเรียลไทม์ทุกอย่างถูกรวมไว้ในที่เดียว เพื่อให้ทีมขายทำงานได้ง่ายขึ้น และปิดการขายได้มากขึ้นกว่าเดิม
สมัครทดลองใช้งานฟรี ได้แล้ววันนี้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 095-371-7988 และแอดไลน์ @sellstory ได้เลย!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับทักษะการขาย
1. เซลล์มือใหม่ควรเริ่มพัฒนาทักษะการขายไหนก่อน?
เริ่มจากพื้นฐานที่สำคัญที่สุดคือ “การฟัง” และ “การตั้งคำถาม” เพราะถ้าฟังไม่เป็น หรือถามไม่ถูก ก็จะไม่มีวันเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไรจริง ๆ จากนั้นจึงต่อยอดไปสู่การนำเสนอและการเจรจาต่อรอง
2. ใครควรเรียนรู้ทักษะการขาย?
ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า เช่น เจ้าของธุรกิจ ทีมการตลาด หรือทีมบริการลูกค้า ก็ควรเรียนรู้ เพราะทักษะการขายจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจได้ทั้งหมด
3. ใช้ CRM ช่วยเพิ่มทักษะการขายได้จริงไหม?
จริง เพราะระบบ CRM อย่าง SellStory ช่วยให้คุณรู้จักลูกค้าแบบเชิงลึก เห็นประวัติการซื้อ การคุยแชท และโอกาสที่กำลังอยู่ใน Pipeline ไม่ต้องขายแบบเดาสุ่ม แต่ใช้ข้อมูลจริงมาต่อยอด เพิ่มความน่าเชื่อถือเวลาคุยกับลูกค้า