เจาะลึก Data Management เคล็ดลับการจัดการข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ

เจาะลึก Data Management เคล็ดลับการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ให้มีประสิทธิภาพ

การทำ data management จัดการข้อมูลในการทำธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ
ในยุคดิจิทัลแบบนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าข้อมูลมีค่ามากกว่าทรัพย์สินใด ๆ ในองค์กรเสียอีก เพราะข้อมูลเป็นอาวุธสำคัญที่ช่วยบอกทั้งพฤติกรรมลูกค้า แนวโน้มตลาด และโอกาสในการเติบโต และหนึ่งในปัญหาที่ธุรกิจเจอบ่อย คือ ข้อมูลกระจัดกระจาย ไม่รู้ว่าข้อมูลจากแหล่งไหนถูกต้องจริง และจัดการข้อมูลไม่ทันเวลา จนท้ายที่สุดก็กลายเป็นเพียงกองข้อมูลขนาดใหญ่ที่ไร้ประโยชน์ไปอย่างน่าเสียดาย

วันนี้ Sellstory จึงจะพาคุณไปเจาะลึกเกี่ยวกับ การทำ Data Managementคืออะไร ทำไมถึงสำคัญต่อการทำธุรกิจยุคใหม่ และมีเทคนิคอย่างไรในการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่อย่างเป็นระบบ เพื่อให้ทุกทีมทำงานร่วมกันได้ง่าย วิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ

เลือกอ่านจากสารบัญ

Data Management คืออะไร?

Data Management คือ กระบวนการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ตั้งแต่การนำเข้าข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลการจัดระเบียบ การดูแลรักษา และการทำให้พร้อมใช้งาน มีคุณค่า และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการทำงานและการตัดสินใจของธุรกิจได้อย่างเป็นระบบ

ทำไมธุรกิจต้องทำ Data Management?

ทุกองค์กรต่างก็มีข้อมูลหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะจากทางลูกค้า พนักงาน คู่ค้า หรือแม้แต่โซเชียลมีเดีย ดังนั้น การจัดการข้อมูลจึงเป็นเรื่องที่ธุรกิจยุคใหม่ต้องให้ความสำคัญ เพราะสามารถช่วยสร้างประโยชน์ได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น

  • ข้อมูลเติบโตแบบก้าวกระโดด : ยิ่งธุรกิจทำงานหลายช่องทาง ข้อมูลจากอีเมล แชท โซเชียล ซึ่งถือเป็นการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)หากไม่มีระบบรองรับ ข้อมูลก็จะกระจัดกระจายและไม่สามารถใช้งานได้จริง
  • สร้างมูลค่าและความได้เปรียบจาก Big Data : เปลี่ยนข้อมูลลูกค้าและการขายให้กลายเป็น Insight ที่ช่วยเพิ่มยอดขายและปรับกลยุทธ์การตลาดได้
  • ตัดสินใจได้เร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น : องค์กรที่จัดการข้อมูลเป็นระบบ สามารถช่วยในการตัดสินใจได้เร็วและแม่นยำกว่าคู่แข่ง
  • ลดความเสี่ยงเรื่องข้อมูล : ทั้งการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือข้อมูลหาย ทำให้ธุรกิจเสียหายได้ ถ้าไม่จัดการให้ดี
  • ลดความผิดพลาดและความซ้ำซ้อน : กำจัดข้อมูลซ้ำ ทำให้ทุกแผนกใช้ข้อมูลเดียวกัน ไม่เกิดความสับสน หรือการทำงานซ้ำซ้อน
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน : ข้อมูลที่ถูกจัดระเบียบอย่างดี ช่วยให้ทีมขายติดตามสถานะได้ทันที โดยทีมการตลาดสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าได้ดี และลึกขึ้น อีกทั้งช่วยบริการลูกค้าสามารถตอบคำถามได้เร็ว ส่งผลให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างลื่นไหล
ขั้นตอนการทำ data management มีอะไรบ้าง

Data Management มีขั้นตอนอะไรบ้าง?

การทำ Data Management อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องวางระบบให้ข้อมูลมีคุณภาพ พร้อมใช้งาน และสร้างประโยชน์สูงสุด โดยทั่วไปแล้ว สามารถแบ่งกระบวนการจัดการข้อมูลได้ 6 ขั้นตอนสำคัญ ดังนี้

1. วางแผนการจัดการข้อมูล (Data Management Planning)

กำหนดกลยุทธ์และแนวทางในการจัดการข้อมูลทั้งหมดในองค์กรว่า ใครมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล ข้อมูลจะถูกจัดเก็บที่ไหน และมีวิธีการอัปเดตข้อมูลอย่างไร ยิ่งเราวางแผนได้ละเอียดมากเท่าไหร่ การทำงานในขั้นตอนต่อไปก็ยิ่งง่ายมากขึ้นเท่านั้น

2. การเก็บรวบรวมข้อมูล (Data Collection)

หลังจากมีแผนแล้ว ก็ถึงเวลาลงมือเก็บรวบรวมข้อมูลที่มาจากหลากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นการกรอกแบบฟอร์มบนเว็บไซต์ การพูดคุยผ่านโซเชียลมีเดีย การสำรวจ หรือจากฐานข้อมูลภายในองค์กรเอง

ทางที่ดีควรตรวจสอบคุณภาพของข้อมูลตั้งแต่ขั้นตอนแรกว่า ข้อมูลที่ได้มาต้องมีความถูกต้อง ครบถ้วน เชื่อถือได้ หากมีเครื่องมืออย่าง ระบบ CRMเข้ามาช่วยรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากหลายช่องทางมาไว้ในที่เดียว จะทำให้เรามั่นใจได้ว่าข้อมูลจะไม่ตกหล่น

อ่านบทความที่น่าสนใจ :การเก็บรวบรวมข้อมูล (Data Collection) คืออะไร เจาะลึกประเภทและขั้นตอนที่ธุรกิจต้องรู้

3. การจัดเก็บและจัดระเบียบข้อมูล (Data Storage & Organization)

หากคุณลองนึกภาพว่า ถ้าข้อมูลลูกค้ากว่า 10,000 ราย ถูกเก็บแบบไม่เป็นระเบียบ จะวุ่นวายขนาดไหน ดังนั้น การเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบช่วยให้เราค้นหาและเรียกใช้ข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น

การใช้เครื่องมืออย่างระบบ CRM เข้ามาช่วย ทำให้ข้อมูลลูกค้าแต่ละคนถูกบันทึกพร้อมประวัติการติดต่อ การสั่งซื้อ และสถานะดีลการขายต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ทำให้ง่ายต่อการติดตามและทำงานต่อได้อย่างราบรื่น

4. การประมวลผลและการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Processing & Analytics)

ขั้นตอนนี้คือการแปลงข้อมูลดิบให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึก (Insight) ที่มีคุณค่าและเข้าใจง่าย

ด้วยเครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์และแดชบอร์ด เช่น แดชบอร์ดของ Sellstory ที่แสดงทั้งยอดขาย แหล่งที่มาของลูกค้า และแนวโน้มพฤติกรรม จะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมธุรกิจและตัดสินใจได้เร็วขึ้นและแม่นยำยิ่งขึ้น

อ่านบทความที่น่าสนใจ :Sales Dashboard ตัวช่วยสำคัญในการดูแลทีมขายและวิเคราะห์ภาพรวมยอดขาย

5. การส่งเสริมการใช้ข้อมูล (Data Utilization)

หลังจากที่ผ่านการวิเคราะห์แล้ว ต่อมาคือ การนำข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้นไปใช้ในการวางแผนการตลาด พัฒนาสินค้า และปรับปรุงกระบวนการขายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ยกตัวอย่าง เช่น ทีมการตลาดสามารถใช้ข้อมูลจาก CRM เพื่อสร้างแคมเปญที่ตรงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ทำให้การลงทุนมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม

6. การปกป้องข้อมูล (Data Protection)

ข้อมูลลูกค้าและข้อมูลสินค้า ถือเป็นทรัพย์สินที่สำคัญที่สุดของธุรกิจ การปกป้องข้อมูลจึงเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ เราต้องมั่นใจว่าข้อมูลลูกค้าจะไม่รั่วไหล หรือสูญหายไปไหน

การกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงของผู้ใช้งานแต่ละคนในระบบ CRM เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าแต่ละคนจะเห็นข้อมูลเฉพาะที่จำเป็นสำหรับงานของตัวเองเท่านั้น และข้อมูลสำคัญจะไม่ตกไปอยู่ในมือของคนที่ไม่เกี่ยวข้อง

เพิ่มประสิทธิภาพให้กับทีมขายของคุณวันนี้! ด้วยระบบ CRM จาก SellStoryตรวจสอบแพ็กเกจที่นี่

ทำ data management ร่วมกับระบบรายงานการขายและแดชบอร์ด sellstory

ทำ Data Management ร่วมกับระบบ CRM ได้อย่างไร?

แม้ว่า Data Management จะเป็นกระบวนการที่ทำให้ข้อมูลมีคุณภาพ แต่ถ้าข้อมูลขนาดใหญ่เหล่านั้นไม่ถูกนำมาใช้จริง ก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจ ระบบ CRM จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะเปลี่ยนข้อมูลให้กลายเป็นพลังในการขายและการบริหารลูกค้า โดยสามารถใช้ระบบรายงานการขายและแดชบอร์ด ร่วมกับการจัดการข้อมูลได้ดังนี้

  • รวมศูนย์ข้อมูลลูกค้า :เก็บข้อมูลจากหลายช่องทาง ทั้งอีเมล แชท โซเชียล ใบเสนอราคา ไว้ในระบบเดียว ช่วยให้ทีมขายและทีมการตลาดเข้าถึงง่าย ไม่เสียเวลาค้นหา
  • ติดตามการขายได้เป็นระบบ :ทุกดีลถูกบันทึกอย่างเป็นระเบียบ รู้สถานะของลูกค้าแต่ละราย และช่วยวางแผนติดตามจนปิดการขายได้แม่นยำ
  • จัดการสินค้าและบริการครบวงจร : จัดเก็บทั้งฐานข้อมูลสินค้า ราคา โปรโมชัน รวมถึงเอกสารทางการขายต่าง ๆ ไว้อย่างครบถ้วน ลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความเร็วในการทำงาน
  • วิเคราะห์และปรับกลยุทธ์การขาย :Dashboard และรายงานการขาย ช่วยให้ทีมเห็นข้อมูลเชิงลึก เช่น ช่องทางที่ทำยอดขายได้ดีที่สุด หรือสินค้าที่ลูกค้าสนใจ ช่วยให้เราปรับกลยุทธ์ในการขายให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้ทันที แถมยังช่วยสร้างโอกาส Upsell และ Cross-sell ได้อีกด้วย
  • ควบคุมสิทธิ์และความปลอดภัยของข้อมูล :กำหนดสิทธิ์ผู้ใช้งานให้เข้าถึงข้อมูลเท่าที่จำเป็น ช่วยลดความเสี่ยงข้อมูลรั่วไหล และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า
ระบบ crm sellstory เพิ่มประสิทธิภาพให้ data management

สรุป Data Management ร่วมกับระบบ CRM & Sales Management จาก SellStory เพื่อการจัดการข้อมูลที่ดีขึ้น

การวางกลยุทธ์และทำ Data Management อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้มั่นใจในข้อมูลที่ถูกต้องและปลอดภัยแล้ว ยังช่วยลดความซ้ำซ้อน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้วางกลยุทธ์ได้จริง อีกทั้งยังช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และลดโอกาสถูกโจมตีทางไซเบอร์ได้อีกด้วย

หากคุณต้องการเพิ่มศักยภาพการจัดการข้อมูลให้เป็นระบบ ให้พร้อมต่อยอดสู่ยอดขายและการบริการลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น ระบบ CRM & Sales Management จาก SellStoryเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้องค์กรของคุณได้มากกว่าแค่การเก็บและจัดการข้อมูล แต่รวมไปถึงการจัดการลูกค้า การติดตามการขาย การออกเอกสารสำคัญ ไปจนถึงการสร้างรายงานและ Dashboard แบบเรียลไทม์ในระบบเดียว
สมัครทดลองใช้งานฟรีได้แล้ววันนี้ ทั้งบน Desktop Web Browser และ Mobile Application หรือสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 095-371-7988 และแอดไลน์ @sellstory ได้เลย!

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Data Management

1. Data Management ช่วยลดต้นทุนธุรกิจได้ไหม?

คำตอบคือ ได้ เพราะการจัดการข้อมูลช่วยลดทั้งงานที่ซ้ำซ้อน ลดเวลาการทำงานที่เสียไปกับการค้นหาข้อมูลที่กระจัดกระจาย ไปจนถึงลดความผิดพลาดที่อาจสร้างความเสียหายด้านการเงินหรือชื่อเสียงได้ด้วย

2. Data Management ต้องใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะทางไหม?

ขึ้นอยู่กับปริมาณและความซับซ้อนของข้อมูล หากธุรกิจมีข้อมูลจำนวนมากหรือหลายแหล่ง ก็ควรใช้ซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการข้อมูล เช่น CRM, Data Platform หรือ Business Intelligence Tools เพื่อความแม่นยำและประสิทธิภาพมากขึ้น

3. ธุรกิจขนาดเล็กหรือสตาร์ตอัพ ควรต้องทำ Data Management ไหม?

ควรทำ แม้ธุรกิจจะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีข้อมูลลูกค้าและการขายเพิ่มขึ้นทุกวัน หากไม่มีการจัดการ อาจพลาดโอกาสในการเติบโต และยิ่งเติบโตมากขึ้นก็จะยิ่งจัดการยาก

บทความที่น่าสนใจจาก SellStory CRM

อ่านบทความ อัปเดตเทรนด์และเกร็ดความรู้ดี ๆ สำหรับงานขาย

ในโลกธุรกิจที่การแข่งขันสูงและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว...