ฝ่ายขายควรรู้! อะไรคือ Sales Funnel และสิ่งนี้ใช้ทำอะไรได้บ้าง

กลยุทธ์ sales funnel
Sales Funnel เป็นคำที่คนทำงานด้านการขายและการตลาดออนไลน์มักได้ยินกันอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะพนักงานฝ่ายขาย หากทำความเข้าใจและรู้ความหมายที่แท้จริงว่า Sales Funnel หรือ Marketing Funnel คืออะไรและสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานขายได้อย่างเหมาะสม จะช่วยให้วางกลยุทธ์การขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มโอกาสปิดการขายได้ดียิ่งขึ้น

ในบทความนี้ SellStory จะพาไปทำความรู้จักกับ Sales Funnel ให้มากขึ้น ทั้งความหมาย โครงสร้าง และสามารถนำ Sales Funnel มาใช้ทำอะไรในงานขายได้บ้าง

เลือกอ่านจากสารบัญ

sales funnel คือโมเดลทางการตลาดที่อธิบายลำดับขั้นตอนการเข้าถึงของลูกค้า

Sales Funnel คืออะไร?

Sales Funnel คือ โมเดลทางการตลาดที่อธิบายลำดับขั้นตอนการเข้าถึงของลูกค้า โดยเริ่มตั้งแต่การรู้จักแบรนด์การวิเคราะห์ Lead ไปจนถึงการตัดสินใจซื้อสินค้า และกลายเป็นลูกค้าที่ภักดีในระยะยาว โดยเปรียบเทียบแต่ละขั้นตอนเป็นรูปทรงกรวย (Funnel) ที่มีความกว้างในช่วงต้นและแคบลงเรื่อย ๆ ตามจำนวนของลูกค้าที่เหลือในแต่ละขั้น โดยที่แต่ละขั้นตอนจะมีกลยุทธ์และวิธีการที่แตกต่างกัน เพื่อให้ฝ่ายขายคัดกรองลูกค้าระดับคุณภาพให้ซื้อสินค้าหรือบริการได้แม่นยำมากที่สุด

sales funnel ทั่วไปมี 4 ขั้นตอน พนักงานฝ่ายขายใช้กรองลูกค้าคุณภาพให้ซื้อสินค้าได้แม่นยำมากที่สุด

Sales Funnel มีกี่ขั้นตอน?

สำหรับ Sales Funnel นั้นประกอบไปด้วยหลายขั้นตอน โดยทั่วไปแล้วสามารถแบ่งได้ระดับขั้นที่สำคัญได้ทั้งหมด 4 ขั้นตอน ดังนี้

1. Awareness

ขั้นแรกคือ Awareness หรือเป็นกระบวนการที่ช่วยสร้างการรับรู้ ทำให้ลูกค้าเริ่มรู้จักและจดจำแบรนด์ สินค้าและบริการผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การทำโฆษณาบนโซเชียลมีเดียเว็บไซต์ การบอกต่อ หรือการทำป้ายโฆษณา โดยสิ่งที่จะช่วยให้ขั้นตอนนี้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดคือ ฝ่ายขายต้องจัดเก็บข้อมูลลูกค้าให้ครบถ้วน เช่น เบอร์โทร อีเมล และความสนใจเบื้องต้น ที่สำคัญคือการตอบกลับลูกค้าไว ให้ข้อมูลชัดเจน เพื่อสร้างความประทับใจแรก

2. Interest

ขั้นตอนที่สร้างความสนใจ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าต้องการค้นหาข้อมูล เปรียบเทียบ หรือเข้ามาอ่านรายละเอียดในเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย โดยขั้นตอนนี้ทีมการตลาดสามารถทำได้จากการสร้าง Content บนเว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับข้อมูลเชิงลึก เช่น จุดเด่นสินค้า กรณีศึกษา เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์มากที่สุด พร้อมทั้งการทำความเข้าใจ Pain Point ของลูกค้า เพื่อเสนอแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม

3. Desire

ขั้นตอนที่ 3 บน Sales Funnel เป็นขั้นตอนที่ลูกค้าเริ่มมีความสนใจและต้องการซื้อสินค้า โดยอาจตัดสินใจจากการรีวิวสินค้าจากลูกค้าที่เคยใช้สินค้าหรือบริการ การทำบทความและคอนเทนต์ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสินค้า ทั้งด้านข้อดี ข้อควรพิจารณา โดยมีเนื้อหาที่ละเอียดกว่าในขั้นตอน Interest ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะกระตุ้นให้ลูกค้ามีความเชื่อมมั่นในแบรนด์มากขึ้นและนำไปสู่การปิดการขายได้

4. Action

ขั้นตอนสุดท้ายบน Sales Funnel คือ Action หรือ Conversion เป็นขั้นตอนที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อสินค้า หรือบริการ ผ่านการสร้างการรับรู้ และสร้างความสนใจ ซึ่งขั้นตอนนี้ฝ่ายขายมีหน้าที่กระตุ้นผู้สนใจให้สั่งซื้อสินค้าหรือปิดดีลการขายให้สำเร็จ โดยขั้นตอนนี้ทีมขายสามารถนำเสนอได้ทั้งโปรโมชั่นส่วนลด ของแถม ระบบสะสมแต้มหรือบริการหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น

อ่านบทความที่น่าสนใจ:ทำไม ‘ข้อมูลลูกค้า’ ถึงเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของธุรกิจในยุคดิจิทัล?

sales funnel ใช้ทำอะไร

Sales Funnel มีข้อดีอย่างไร?

แม้ว่าจะเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในงานขาย แต่หากยังไม่เคยปรับใช้มาก่อนก็อาจทำให้หลายคนไม่แน่ใจว่าข้อดีของ Sales Funnel คืออะไร และจะเป็นประโยชน์กับฝ่ายขายได้อย่างไรบ้าง โดยสามารถสรุปข้อดีได้ดังนี้

  • ช่วยจัดลำดับความสำคัญของ Lead ลดขั้นตอนและระยะเวลาในการสื่อสารกับลูกค้าทุกราย
  • วิเคราะห์สาเหตุของการปิดการขายไม่สำเร็จ เช่น ลูกค้าออกจาก Funnel ที่ขั้นตอนไหน
  • ช่วยForecast ยอดขาย โดยดูจากจำนวนลูกค้าที่อยู่ในแต่ละขั้น
  • สร้างระบบการขายที่ทำซ้ำได้ โดยเฉพาะในองค์กรที่มีทีมขายหลายทีม

นอกจากนี้หากฝ่ายขายนำ Sales Funnel มาใช้คู่กับระบบ CRM ยังช่วยให้ติดตามสถานะของลูกค้าได้ง่าย และเพิ่มโอกาสปิดการขายได้แม่นยำมากขึ้นด้วย

ระบบรวมแชท การบันทึกโน้ตและติด hashtag ของ sellstory crm ช่วยให้การจัดการ sales funnel เป็นไปตามแผน

การใช้งาน Sales Funnel กับระบบ Sales Management & CRM จาก SellStory ให้เกิดประสิทธิภาพ

หากพนักงานฝ่ายขายนำกระบวนการ Sales Funnel มาใช้ร่วมกับระบบช่วยบริหารงานขายหรือSales Management & CRM จาก SellStory ไม่เพียงแค่ช่วยให้บริหารจัดการลูกค้าได้รวดเร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ทีมขายสามารถทำงานได้มีศักยภาพมากขึ้นด้วย โดยการทำงานร่วมกันสามารถทำได้ ดังนี้

1. สื่อสารได้รวดเร็ว ไม่พลาดโอกาสดึงดูดลูกค้าใหม่

ขั้นตอนแรกของ Sales Funnel คือสร้างการรับรู้ให้แบรนด์ ซึ่งนอกจากการนำเสนอแบรนด์ผ่านสื่อและช่องทางต่าง ๆ แล้ว การทำงานร่วมกับระบบ CRM SellStory ยังช่วยให้สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้รวดเร็ว โดยเฉพาะฟีเจอร์ ‘ระบบรวมแชท’ ที่สามารถโต้ตอบ พูดคุย และโน้มน้าวจิตใจลูกค้าได้แบบเรียลไทม์จากทุกช่องทาง ทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์และสินค้าได้ทันที

2. เพิ่มโอกาสปิดการขาย

เมื่อทราบว่าลูกค้าแต่ละรายอยู่ในขั้นตอนไหนบน Sales Funnel จะช่วยให้จัดการกับ Lead แต่ละรายได้อย่างเหมาะสม ฝ่ายขายสามารถรู้ได้ว่ากลุ่มเป้าหมายหลักอยู่ในขั้นตอนไหน ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้แม่นยำและรวดเร็ว เพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้น ซึ่งระบบ CRM จะช่วยให้ทราบว่ามี Lead เข้ามาจากทางไหนบ้าง และช่วยให้ทีมขายสามารถวิเคราะห์ความสนใจเพื่อนำเสนอ ต่อรอง และติดตามลูกค้าที่สนใจได้รวดเร็ว แม่นยำยิ่งขึ้น

3. ช่วยคัดกรองลูกค้า

เมื่อติดตามลูกค้าที่เข้ามาตามขั้นตอนของ Sales Funnel แล้ว การใช้งานระบบ Sales Management & CRM จะช่วยให้ทีมขายคัดกรองลูกค้าที่ใช่ได้ง่ายยิ่งขึ้น อย่างเช่นฟีเจอร์บันทึกโน้ตและติด Hashtag เพื่อแบ่งกลุ่มลูกค้า เมื่อต้องนำเสนอสินค้าหรือบริการ พนักงานฝ่ายขายสามารถกรองหรือค้นหาลูกค้าได้ทันที และยังช่วยให้รู้ด้วยว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มต้องนำเสนอหรือติดตามแบบไหนเพื่อสร้างโอกาสปิดการขายได้เร็วยิ่งขึ้น

4. ปิดการขาย เพิ่มยอดขายจากลูกค้าเก่า

ขั้นตอนสุดท้ายของ Funnel คือการปิดการขาย แม้ว่าจะประสบความสำเร็จ แต่ในขั้นตอนนี้ฝ่ายขายยังสามารถเพิ่มโอกาสสร้างยอดขายได้จากการUpselling และ Cross Selling รวมถึงการกลับมาซื้อซ้ำในอนาคต ซึ่งการใช้เครื่องมือช่วยงานขายอย่าง CRM เข้ามาจัดการงานขาย จะช่วยให้ทีมขายมองเห็นความคืบหน้าในกระบวนการขายทั้งหมด ทั้งลำดับความสำคัญ มอบหมาย ติดตามสถานะ และวางกลยุทธ์การขายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ยกระดับทีมขายให้ธุรกิจคุณวันนี้! ด้วย SellStory ระบบ CRM เลือกตรวจสอบแพ็กเกจ

sales funnel ทำงานร่วมกับ sellstory ระบบ sales management & crm

Sales Funnel โมเดลการตลาด ที่ประยุกต์ใช้ได้กับทุกธุรกิจ

เรียกได้ว่า Sales Funnel คือโมเดลการขายที่ทันสมัยและจำเป็นสำหรับธุรกิจในยุคนี้ เพราะช่วยให้ฝ่ายขายทำงานได้อย่างมีระบบ ประเมินสถานะลูกค้าได้แม่นยำ และปิดการขายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อนำโมเดลการตลาดมาใช้งานร่วมกับระบบ CRM ด้วยแล้ว ยิ่งช่วยให้แต่ละขั้นตอนที่อยู่บน Funnel เป็นเรื่องง่าย รวดเร็ว แม่นยำ และเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จจากยอดขายให้กับธุรกิจของคุณ

สำหรับใครที่กำลังมองหาตัวช่วยจัดการงานขาย ระบบSales Management & CRM จาก SellStory คืออีกหนึ่งเครื่องมือดี ๆ ที่ออกแบบมาเพื่องานขายโดยเฉพาะ ด้วยฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์นักขายอย่าง ระบบรวมแชท ระบบออกเอกสาร การจัดการข้อมูลสินค้า และอีกหลายฟีเจอร์ที่ช่วยเปลี่ยนความยุ่งยากในงานขายให้กลายเป็นเรื่องง่าย

ลงทะเบียนเพื่อสมัครใช้งานฟรี! หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 095-371-7988 และแอดไลน์@sellstory

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Sales Funnel

เพื่อไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ Sales Funnel ต่อไปนี้คือคำถามที่พบบ่อย ที่เราได้รวบรวมมาเป็นคำตอบแบบสั้น ๆ ให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น

1. ฝ่ายขายจะเริ่มใช้ Sales Funnel อย่างไร?

เริ่มจากการกำหนดขั้นตอนของ Funnel ให้ชัดเจนตามรูปแบบธุรกิจ เช่น Awareness, Interest, Consideration, Action จากนั้นใช้เครื่องมือหรือระบบ CRM เพื่อเก็บข้อมูลและติดตามลูกค้าในแต่ละขั้น พร้อมวิเคราะห์ผลลัพธ์และปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง
Sales Funnel ช่วยให้พนักงานขายจัดลำดับความสำคัญของลูกค้าได้ดีขึ้น เช่น รู้ว่าลูกค้าคนไหนพร้อมซื้อ ควรติดตามใครก่อน และควรพูดคุยในแนวทางไหนให้เหมาะกับจุดที่ลูกค้าอยู่ในแต่ละ Funnel ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการปิดการขายและลดระยะเวลาการทำงานได้
สามารถใช้ Sales Funnel ได้ในช่วงแรก แต่หากมีจำนวนลูกค้ามากขึ้นหรือทีมขายเพิ่มขึ้น การใช้ระบบ CRM จะช่วยเพิ่มความแม่นยำ ความรวดเร็ว และลดโอกาสในการตกหล่นของข้อมูลหรือการติดต่อลูกค้าได้ดีที่สุด

บทความที่น่าสนใจจาก SellStory CRM

อ่านบทความ อัปเดตเทรนด์และเกร็ดความรู้ดี ๆ สำหรับงานขาย

ในโลกของการขาย เชื่อว่านักขายหลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่า Hard...
หนึ่งในหน้าที่สำคัญของฝ่ายขายคือการโฟกัสกับยอดขายและกำไรจากการขายสินค้าหรือบริการ ที่ไม่เพียงช่วยให้ทราบว่าสามารถทำยอดขายและกำไรได้มากน้อยเพียงใด แต่ยังเป็นตัวที่ช่วยชี้วัดผลงานของฝ่ายขายแต่ละคนได้อีกด้วย...
การทำงานของฝ่ายขายในแต่ละวัน เต็มไปด้วยขั้นตอนที่มากมาย ทั้ง...